โจนส์เผยแค่พูดคุยเรื่องอนาคตทีมกับแม็คคาร์ธี่ย์

เจอร์รี่ โจนส์ เจ้าของทีมและผู้จัดการทั่วไปของ ดัลลาส คาวบอยส์ เปิดเผยว่าการพูดคุยกับ ไมค์ แม็คคาร์ธี่ย์ เป็นเรื่องในอนาคตของทีมเท่านั้น โดยยังไม่มีการถกกันเรื่องอนาคตของโค้ชวัย 61 ปี จากการให้สัมภาษณ์ 105.3 The Fan ในดัลลาส 

'การสนทนาทุกครั้งของเราเกี่ยวกับตำแหน่ง เกี่ยวกับผู้เล่น' โจนส์ กล่าว 'ส่วนใหญ่แล้ว เมื่อคุณพูดคุยถึงสถานการณ์ของทีมฟุตบอลนี้ คุณกำลังพูดถึงอนาคต อนาคตอาจเป็นเกมต่อไปหรืออาจจะเป็นเดือนหน้าก็ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วหรือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ไม่ใช่เรื่องนั้น'

'นั่นเป็นจุดอ้างอิงและนั่นคือสิ่งที่คุณต้องตัดสินใจ แต่สิ่งสำคัญคือนาทีถัดไปและก้าวไปข้างหน้าจากตรงนั้นโดยไม่ต้องกังวล อนาคตคือที่ที่เราจะตัดสินใจได้'

คาวบอยส์ ซึ่งตกรอบเพลย์ออฟแล้ว แต่ชนะ 4 จาก 5 เกมหลังสุด และทำสถิติ 7-8 แม้จะขาดผู้เล่นสำคัญอย่างควอร์เตอร์แบ็ก แด็ค เพรสค็อตต์, การ์ดขวา แซ็ค มาร์ติน, ดีเฟนซีฟเอนด์ เดอมาร์คัส ลอว์เรนซ์ และคอร์เนอร์แบ็ก เทรวอน ดิ๊กส์ ก็ตาม

โจนส์ ได้กล่าวชื่นชมผลงานของ แม็คคาร์ธี่ย์ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้แสดงความเห็นต่อความเป็นไปได้ในการนำเฮดโค้ชวัย 61 ปีกลับมาในซีซั่น 2025

'ตอนนี้เรากำลังพูดถึงแต่เรื่องดีๆ' โจนส์ กล่าว 'เราเริ่มการสนทนาด้วยการพูดว่าผมคิดว่านี่เป็นงานที่ดีเพียงใดเมื่อเทียบกับสถานการณ์ที่เราเผชิญมา ทีมสตาฟฟ์โค้ชทำได้ดีเพียงใด ไมค์ แม็คคาร์ธี่ย์ เป็นผู้นำ และนั่นคือสิ่งที่เรากำลังทำอยู่'

'ผมพูดในสิ่งที่ผมพูด ผมประทับใจมากกับวิธีการเล่นของทีมนี้ และความพยายามในระดับนี้ และผมประทับใจกับความจริงที่ว่าเรามีผู้เล่นดาวรุ่งจำนวนมากที่ได้รับประสบการณ์มากมาย อนาคตดูสดใสกับผู้เล่นเหล่านี้'

แม็คคาร์ธี่ย์ และทีมสตาฟฟ์โค้ชทั้งหมดกำลังจะสิ้นสุดสัญญาหลังจบฤดูกาลนี้ จากชัยชนะเหนือ แทมป้า เบย์ บัคคาเนียร์ส เมื่อวันอาทิตย์ทำให้ แม็คคาร์ธี่ย์ แซงหน้า เจฟฟ์ ฟิสเชอร์ ขึ้นมาเป็นโค้ชที่นำทีมชนะในช่วงฤดูกาลปกติมากสุดอันดับ 13 (173 ครั้ง) ในประวัติศาสตร์เอ็นเอฟแอล

เมื่อถูกถามว่าเขาต้องการหาข้อสรุปเกี่ยวกับสถานะของตนเองในอนาคตหรือไม่ แม็คคาร์ธี่ย์ ตอบว่า 'ผมเชื่อในเวลาและสถานที่ และนี่ไม่ใช่เวลาหรือสถานที่ที่ผมจะพูดถึงเรื่องนี้'

'จริงๆแล้ว สิ่งที่ผมโฟกัสคือทีมสตาฟฟ์มากกว่า เพราะพวกเขาเป็นห่วงผมมากกว่า เพราะการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดเวลาในลีกของเรา มันเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมนี้ และผมเข้าใจเรื่องนี้ดี'

'ผมอยู่ในช่วงชีวิตที่ต่างออกไป ผมให้ความสำคัญกับพวกเขามากกว่า และผมรู้ว่าวิธีดีที่สุดในการช่วยเหลือทุกคนคือการดูแลสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเรา และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมความมุ่งมั่น ความภาคภูมิใจ จึงเป็นประโยชน์ต่อทุกคนสำหรับผม แค่เดินหน้าต่อไปในเส้นทางนี้'