เคลซี่เผยขอใช้เวลาใคร่ครวญเรื่องอนาคต

เทรวิส เคลซี่ ปีกในวัย 35 ปีของ แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ เปิดเผยว่าเขาจะใช้เวลาสักเพื่อในการไตร่ตรองก่อนจะตัดสินใจว่าจะยุติอาชีพในช่วงปิดฤดูกาลนี้หรือไม่ ตามรายงานจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์ค 

'มันไม่ใช่วันของเราเลย ไม่สามารถหาโมเมนตัมได้เลย' เคลซี่ กล่าวในรายการพ็อดแคสท์ 'New Heights' ร่วมกับ เจสัน เคลซี่ อดีตเซนเตอร์ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์ พี่ชายของเขา 'ผมรู้สึกแย่กับการตัดสินใจเล็กๆน้อยๆ ที่ผมทำในสนาม พยายามทำอะไรมากกว่าที่ผมขอให้ทำระหว่างการเล่น ผมไม่ใช่ผู้นำดีที่สุดที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เล่นและทำให้ผู้เล่นใจเย็น และมีสติ ผมรับภาระนี้ไว้กับตัวเองในฐานะคนที่อยู่ในสนามมา 12 ปี ดูฟุตบอลมาเยอะ และเห็นสถานการณ์แบบนี้ใน ซูเปอร์ โบวล์ กำลังพูดถึง แทมป้า เบย์ ซูเปอร์ โบวล์'

'มันเป็นยาขมที่ยากจะกลืน ทุกครั้งที่เรารู้สึกว่าเราทำเกมใหญ่ๆได้หรือทำอะไรสำเร็จ ก็จะมีโทษเกิดขึ้นหรือเราจะถอยหลัง นอกจากนั้นยังไม่สามารถทำตามคำสั่งการเล่นอีกด้วย ไม่ใช่เพราะการเรียกเพลย์ แต่เป็นความพยายามร่วมกันของทุกคนที่ไม่สามารถหาทางทำให้มันสำเร็จได้ การได้ขึ้นเวทีใหญ่ที่สุดนั้นช่างน่าหงุดหงิด แต่การที่ต้องขึ้นเวทีใหญ่ที่สุดเป็นครั้งที่สองในอาชีพของผมนั้นยากจะยอมรับ'

เคลซี่ ยังเปิดใจว่าเขาเริ่มเข้าใจถึงความร้ายแรงของช่วงเวลานี้ในเส้นทางอาชีพของเขาแล้ว โดยกล่าวว่า 'มันเป็นความจริงที่ยากจะยอมรับ ผมรักเพื่อนร่วมทีม ผมรักโค้ชของผม ชีฟส์ คิงดอม ผมเสียใจที่มันจบลงแบบนั้น ชีวิตผมสวยงามมาก ผมมีคนที่รัก ผมมีครอบครัวที่น่าอัศจรรย์ที่สุดในโลกที่คอยสนับสนุนผมในทุกอย่างที่ผมทำ และพวกเขาทั้งหมดอยู่ที่นั่นเพื่อเชียร์ผมและหวังว่าทุกอย่างจะออกมาดีในวันอาทิตย์'

'ผมต้องขอปรบมือให้ อีเกิ้ลส์ พวกเขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมาก เรารู้สึกเหมือนกับว่าเราไม่สามารถควบคุมได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเกมนั้น'

ปีกในวัย 35 ปียังเผยว่าเขาวางแผนจะใช้เวลาสักพักก่อนตัดสินใจว่าเขาจะกลับมาเล่นเอ็นเอฟแอลฤดูกาลที่ 13 หรือไม่ 'ผมรู้ว่าทุกคนอยากรู้ว่าผมจะเล่นในปีหน้าหรือไม่ ตอนนี้ผมกำลังทุ่มสุดตัว'

'ผมกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อก้าวไปข้างหน้า ผมไม่ได้ตัดสินใจอะไรบ้าๆบอๆ แต่ตอนนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการอยู่เคียงข้างเพื่อร่วมทีมและโค้ชของผม โดยเข้าใจว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำ'

'ผมโชคดีในช่วง 5 หรือ 6 ปีที่ผ่านมา ผมได้เล่นฟุตบอลมากกว่าใครๆ นั่นเป็นเพราะผู้คนในอาคารนั้นและความจริงที่ว่าเรายังคงไปร่วมชิงแชมป์เอเอฟซี และ ซูเปอร์ โบวล์ เหล่านี้ นั่นหมายความว่าผมต้องลงเล่นมากกว่าคนอื่นๆในลีกทั้งหมดถึง 3 เกม'

'นั่นเป็นการสึกหรอของร่างกายคุณมาก มันใช้เวลาอย่างมากในการสร้าง โดยโฟกัสไปที่งานของคุณที่อยู่ตรงหน้า ทุกความท้าทายที่คุณตั้งไว้สำหรับตัวเอง กระบวนการนั้นอาจโหดร้าย มันสามารถกดดันคุณ มันอาจทำให้คุณดีขึ้น และมันอาจทำให้คุณคลั่งไคล้ในเวลาเดียวกัน'

'ตอนนี้ มันเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้ผมคลั่งไคล้ในปีนี้ ผมคิดว่ามันเกิดขึ้นเมื่อคุณเริ่มช้าลงในช่วง 9 เกมหลังในอาชีพของคุณ เมื่อคุณเห็นตัวเองหรือไม่รู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จเหมือนที่เคยมีมาก่อน มันเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับได้ นอกจากนั้น การไม่อยู่ที่นั่นในช่วงเวลายิ่งใหญ่ที่สุด โดยรู้ว่าทีมของคุณกำลังพึ่งพาคุณอยู่ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องที่ยากมาก มันเป็นความจริงอันโหดร้าย'