ความนิ่งและความเฉียบคม
ในเกมที่ผ่านมามีทั้งเรื่องราวที่ดีมากมาย และเรื่องที่ต้องแก้ไข แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการคว้า 3 คะแนนมาครอง ซึ่งหมายถึงเส้นทางในการลุ้นพื้นที่ 'ท็อป 4' ของ ปีศาจแดง ยังคงเปิดกว้างและดำเนินต่อไป
เรื่องราวการแย่งพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถือเป็นเป้าหมายแรกและเป้าหมายที่สำคัญในตอนนี้ มันเป็นสิ่งที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา และลูกทีมหวังที่จะทำสำเร็จให้ได้
อย่างที่อดีตหัวหอกหน้าทารกได้กล่าวไว้ก่อนลงสนามดวลกับ เดอะ เชอร์รี่ส์ ว่าแต่ละเกมของศึก พรีเมียร์ลีก นับจากนี้ล้วนแล้วสำคัญอย่างมาก และมีโอกาสไปวัดกันในเกมสุดท้ายในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม
แต่ละทีมที่ลุ้นอันดับ 3-4 ต่างพยายามอย่างเต็มที่เพื่อการคว้า 3 คะแนนในแต่ละเกม แม้ว่า วูล์ฟแฮมป์ตัน จะพลาดท่าแพ้ อาร์เซน่อล แต่ไม่ได้หมายความว่า หมาป่าแห่งมิดแลนด์ส จะถูกกาชื่อออกไปในช่วง 5 เกมสุดท้าย
ที่น่าสนใจคือเกมสุดท้ายของ 4 ที่มีลุ้นโควตา ชปล. ต่างต้องมาไขว้เจอกันเอง ซึ่ง ปิศาจแดง ต้องออกไปเยือน เลสเตอร์ ส่วน เชลซี เปิดบ้านปะทะ วูล์ฟส์
นั่นหมายความ 4 เกมหลังจากนี้คือการแย่งชิงคะแนนเพื่อให้ได้อยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบก่อนจะลงชิงชัยเกมสุดท้ายของฤดูกาล 2019/20 ในวันที่ 26 ก.ค.นี้
แม้จะมีโปรแกรมที่อัดแน่นและถี่ยิบ แต่สัญญาณที่ส่งออกมาจากทีมถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างมาก โดยเฉพาะสปิริตในทีม รวมไปถึงความมั่นใจและบรรยากาศต่างๆ ที่แสดงออกมาให้แฟนบอลอุ่นใจ
นอกจากนั้นผลงานในสนามถือว่ามีความคงเส้นคงวามากขึ้น แม้ว่าเกมที่ผ่านมาจะโดนนำไปก่อนแต่ลูกทีมของ โซลชา แสดงให้เห็นถึงความเยือกเย็น ไม่ลนลาน และเดินหน้าทำเกมของตนเองต่อไปตามแผนที่วางไว้
นี่คือหนึ่งในหลายสิ่งดีๆ ที่แสดงออกมา และมันเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีอย่างมาก เพราะหากย้อนกลับไปในช่วงที่ผ่านมา นักเตะอสูรแดงมักจะปราชัยหรือทำได้เพียงเสมอหากว่าโดนคู่แข่งออกนำก่อน
พรีเมียร์ลีก: แพ้ คริสตั พาเลซ 1-2 (ห)
พรีเมียร์ลีก: แพ้ เวสต์แฮม 0-2 (ย)
พรีเมียร์ลีก: แพ้ บอร์นมัธ 0-1 (ย)
พรีเมียร์ลีก: เสมอ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3-3 (ย)
พรีเมียร์ลีก: เสมอ แอสตัน วิลล่า 2-2 (ห)
พรีเมียร์ลีก: เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 (ห)
พรีเมียร์ลีก: แพ้ วัตฟอร์ด 0-2 (ย)
พรีเมียร์ลีก: แพ้ อาร์เซน่อล 0-2 (ย)
คาราบาว คัพ: แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-3 (ห)
พรีเมียร์ลีก: แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 (ย)
พรีเมียร์ลีก: แพ้ เบิร์นลี่ย์ 0-2 (ห)
ยูโรปา ลีก: เสมอ คลับ บรูช 1-1 (ย)
พรีเมียร์ลีก: เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 (ย)
พรีเมียร์ลีก: เสมอ สเปอร์ส 1-1 (ย)
นั่นคือ 14 ในฤดูกาลนี้ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องถูกคู่แข่งนำไปก่อนและปรากฏว่าแพ้ไปถึง 8 เกมด้วยกัน
อย่างที่เรียนไปว่าเกมล่าสุดพลพรรคผีแดงมีความนิ่งและความมุ่งมั่นมากกว่าที่ผ่านมา เราจะได้เห็นนักเตะไม่มีอาการตื่นหรือลนลานแต่อย่างใด
พวกเขายังคงเดินเกมตามที่กุนซือได้ติวเข้ม และในที่สุดก็ได้ประตูตีเสมอจาก เมสัน กรีนวูด ก่อนจะมารัวอีกสองทั้งจุดโทษของ มาร์คัส แรชฟอร์ด และลูกยิงสุดสวยของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
แม้ว่าต้นครึ่งหลังจะมาเสียจุดโทษเอง แต่ท้ายที่สุด กรีนวูด และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส มาทำประตูให้ ปิศาจแดง เอาชนะไปได้ 5-2
นั่นคือพัฒนาการที่เห็นได้อย่างชัดเจน นักเตะลงสนามด้วยความมั่นใจ ทุกๆ คนเชื่อมั่นในฟุตบอลของทีมและพยายามทำงานกันอย่างเต็มที่
หลายๆ อย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางโดยเฉพาะการสร้างสรรค์เกมและการเข้าทำที่ถือว่ามีความเฉียบขาดมากขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ได้ตัว บรูโน่ มาเสริมทีม
การมาของมิดฟิลด์โปรตุเกสช่วยยกระดับอย่างชัดเจน และอย่างที่ทุกๆ คนเห็น เขาเข้ามาช่วยเพิ่มมิติในการเข้าทำ รวมไปถึงเพิ่มอาวุธทำลายล้างแนวรับฝ่ายตรงข้าม
รอยยิ้มที่แต้มเติมใบหน้านักเตะ นั่นคือสัญญาณที่บ่งชี้ว่าบรรยากาศในทีมกำลังมาถึงจุดที่ดี และนั่นคือสิ่งที่ โซลชา หวังจะให้เป็นและดำเนินต่อไปเช่นนั้น
แนวรับอาจจะมีจุดบกพร่อง ซึ่งนั่นต้องตามแก้ไขกันต่อไป กระนั้นเมื่อมองไปยังโดยรวมถึงว่าทีมพัฒนามาอย่างมากนับตั้งแต่เข้าเดือนกุมภาพันธ์
สิ่งเหล่านี้ทำให้นึกถึงสมัยที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังคงคุมทีม แม้ว่าบางนัดทีมจะเสียประตูไปก่อนหรือตามหลัง 2 ประตู (หรือมากกว่านั้น) แต่ลูกทีม 'เฟอร์กี้' กลับเดินหน้าฆ่าไม่เลี้ยงและสอยตาข่ายฝ่ายตรงข้ามกลับมาได้มากกว่า
เรียกได้ว่า 'มึงยิง 1 กูยิง 2 มึงยิง 2 กูยิง 3'
เป็นไปได้ที่ โซลชา อาจจะพยายามฝังความคิดนั้นไปในหัวของลูกทีม เพราะอย่าลืมว่าอดีตดาวยิงชาวนอร์เวย์คือหนึ่งในขุนพลยุครุ่งเรื่องของ ปิศาจแดง จึงไม่แปลกหากว่าเขาจะนำกลเม็ดเคล็ดลับและวิธีการของอดีตนายใหญ่มาส่งต่อให้กับเด็กๆ รุ่นนี้
จะว่าไปแล้วเรื่องความมั่นใจคือสิ่งที่สำคัญสำหรับนักกีฬาทุกๆ ชนิด เราจะเห็นได้ว่าคนที่มีความมั่นใจ รวมไปถึงความพร้อมทางร่ายกายและจิตใจมักจะประสบความสำเร็จมากกว่าคนอื่นๆ
ยิ่งกับฟุตบอลที่เป็นกีฬาของทีมขนาดใหญ่ด้วยแล้ว ความมั่นใจมันสามารถส่งต่อไปยังคนอื่นๆ ได้ และหลักฐานสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงที่ผ่านมาคือชายที่ชื่อ แฟร์นันด์ส
บรูโน่ ไม่เพียงเข้ามายกระดับผลงานของทีม แต่เขายังได้สร้างรอยยิ้มให้กับเพื่อนๆ ปิศาจแดง แถมยังเปลี่ยนบรรยากาศในทีมให้ดูสดใสครึกครื้น และอย่างที่เรียนไปยังเพิ่มมิติและโอกาสในการเข้าทำของแนวรุก
สิ่งเหล่านั้นได้แสดงให้ทุกคนได้เห็นอย่างชัดเจน และมันจะพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ เพราะทีมที่มีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต
ผลงานของ ปิศาจแดง ถือว่าดีวันดีคืน แดนกลางมีความสมดุลมากขึ้น แนวรุกเมื่อทำประตูได้ต่อเนื่องก็มีความมั่นใจอย่างเต็มที่เหมือนในนัดล่าสุดที่บรรดากองหน้าทั้งสามรายทำประตูได้ทั้งหมด
สัญญาณที่ดีส่งออกมาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งมันเป็นสิ่งสำคัญกับช่วงเวลาที่เป็นจุดชี้วัดว่า โซลชา และลูกทีมจะสามารถทำได้ตามที่หวังไว้หรือไม่
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT