:::     :::

กว่าจะเฮได้

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน 2563 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
3,517
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หลังจากรอคอยมานานในที่สุดชัยชนะนัดแรกบนพรีเมียร์ลีก ณ สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ฤดูกาลนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว

อย่างที่ทราบกันดีว่าผลงานในบ้านของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซีซั่นนี้เข้าขั้นห่วยและย่ำแย่อย่างมาก ด้วยสถิติแพ้ 3 เสมอ 1 ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเกมที่โดน ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ บุกมาถล่มขาดลอย 6-1

การคว้าชัยในนัดที่ผ่านมาได้มอบความมั่นใจให้กับนักเตะปิศาจแดงพอสมควร และการได้ 3 แต้มในนัดที่ผ่านมายังหมายถึงทีมสามารถเอาชนะในลีกสองนัดติดต่อกันได้เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ แม้ว่าผลงานโดยรวมยังไม่ได้ดีตามที่คาดหวังไว้

ชัดเจนว่าผลงานของลูกทีม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยังคงไม่ดีอย่างที่หลายคนต้องการ แม้ (บางคน) จะกางสถิติหลังจบเกมและมองไปที่โอกาสเข้าทำที่มากกว่าหรือสถิติต่างๆ ที่เหนือกว่าชัดเจน แต่ชัยชนะ 1-0 ถือเป็นเป็นสกอร์ที่ทำให้ทีมต้องเหนื่อยจนวินาทีสุดท้าย และควรจะเอาชนะฝ่ายตรงข้ามให้ได้มากกว่านี้หรือสบายกว่าที่มันเกิดขึ้นในนัดล่าสุด

รูปเกมที่เหนือกว่า แต่หากมองโอกาสของทีมเยือนต้องบอกว่าหากไม่ได้ ดาบิด เด เคอา หรือคานประตูช่วยไว้ ดีไม่ดีทีมอาจจะต้องรอชัยชนะในรังต่อไปก็เป็นได้




นอกจากนั้นประตูชัยที่เกิดขึ้นของทีมก็มาจากการมีส่วนของ 'วีเออาร์' ที่ให้ ปิศาจแดง ได้ยิงจุดโทษอีกครั้ง

ว่ากันถึงเทคโนโลยีดังกล่าวแล้ว นับว่ามีส่วนสำคัญในการชี้วัดและตัดสินเกมที่ผ่านมาอย่างมาก เพราะก่อนที่ ผีแดง จะได้จุดโทษ พวกเขาต้องเสียให้กับ เวสต์บรอมวิช ไปก่อน ในจังหวะที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ไปสกัดแย่งบอลจาก คอเนอร์ กัลลาเกอร์

ใครที่ดูถ่ายทอดสดคงทำใจแล้วว่า ปิศาจแดง ต้องเสียจุดโทษให้กับ เดอะ แบ็กกี้ส์ แน่นอน เพราะจังหวะดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีการปะทะกันอย่างชัดเจน

กระนั้น วีเออาร์ ได้ส่งสัญญาณไปที่ เดวิด คูต ผู้ตัดสินของเกมดังกล่าวซึ่งขอตัวออกไปชมภาพช้าข้างสนามก่อนจะกลับคำตัดสินเพราะ บรูโน่ หวดโดนบอลในจังหวะแรกก่อนจะโดนตัวฝ่ายตรงข้าม

จังหวะเช่นนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอย่างหนักและไม่มีที่สิ้นสุด เพราะหากย้อนกลับไปในช่วงก่อนจะมี 'วีเออาร์' ส่วนมากแล้วทีมที่โดนทำฟาวล์ลักษณะนี้ในกรอบเขตโทษก็ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ 

เรื่องนี้ทาง โซลชา ก็แอบเห็นด้วยโดยเขาให้สัมภาษณ์หลังจบเกมว่าในตอนที่เห็นทีแรกก็ทำใจแล้วว่าทีมคงเสียจุดโทษอย่างแน่นอน 




"ผมคิดในตอนนั้นว่ามันเป็นจุดโทษ แต่เมื่อคุณมองไปที่วิดีโอ บรูโน่ โดนบอลก่อน และผมก็คิดว่าจังหวะที่ วิลล่า ไม่ได้จุดโทษในช่วงท้ายเกมจากนัดดวลกับ ไบรท์ตัน อาจจะอยู่ในข่ายพิจารณาของผู้ตัดสิน เขาโดนบอลก่อนและจากนั้นอาจจะไปโดนฝ่ายตรงข้ามเบาๆ ซึ่งผมคิดว่าเป็นการตัดสินที่ถูกต้อง"

อย่างที่กุนซือชาวนอร์เวย์ได้กล่าวไปนั่นแหละ จังหวะคล้ายกันได้เกิดขึ้นในเกมที่ แอสตัน วิลล่า เปิดบ้านแพ้ให้กับ ไบรท์ตัน เช่นเดียวกัน มันเป็นจังหวะที่ ซอลลี่ มาร์ช ไปสอยหน้าแข้ง เทรเซเก้ต์ แต่ท้ายที่สุดบทสรุปเหมือนกับเกมของ ปิศาจแดง พบ แบ็กกี้ส์ แม้ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษทันที แต่ก็ต้องกลับคำตัดสินหลังจากไปชมภาพช้าจาก วีเออาร์

ปัญหาการใช้งาน วีเออาร์ ของ พรีเมียร์ลีก ยังคงมีประเด็นให้ถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะฝ่ายที่เสียประโยชน์ที่ยังคงกังขากับการตัดสินหรือรูปแบบการใช้งานที่ทำให้ทีมของพวกเขาเสียเปรียบ

ต่างจาก ปิศาจแดง ที่ได้ประโยชน์จากนัดที่ผ่านมาเต็มๆ เพราะนอกจากจุดโทษที่ทีมเสียไปถูกริบคืน จุดโทษที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยิงติดเซฟ แซม จอห์นสตัน ยังได้ยิงใหม่เพราะผู้รักษาประตูเวสต์บรอมฯ กระโดดออกมาจากเส้น

ว่ากันถึงจังหวะดังกล่าวแล้ว ฤดูกาลนี้เราได้เห็นผู้ตัดสินให้หลายๆ ทีมได้โอกาสยิงจุดโทษใหม่เพราะกฎมันชัดเจนว่าผู้รักษาประตูต้องยืนอยู่บนเส้นในตอนที่ทำการป้องกันจุดโทษ ซึ่งมันขัดกับหลักการฝึกซ้อมหรือวิธีการที่บรรดาผู้รักษาประตูถูกพร่ำสอนมา หรือเรียกได้ว่ามันเป็นกฎที่พวกเขาต้องปรับตัวให้เข้ากับวิถีที่เปลี่ยนไป

"คุณเติบโตมาพร้อมกับการถูกสอนว่าต้องพุ่งตัวออกไปดังนั้นมันยากที่จะให้พุ่งอยู่บนเส้น เราโดนลงโทษ ผมไม่เห็นเลยว่าตนเองออกมาจากเส้นไกลแค่ไหน"




นั่นคือคำให้การหลังจบเกมจาก จอห์นสตัน อดีตเด็กผีที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในนัดที่ผ่านมา ซึ่งความรู้สึกของเขาคงไม่ต่างจากตอนที่ ดาบิด เด เคอา ถูกเรียกคืนจุดโทษหลังจากป้องกันจุดโทษในเกมพบ คริสตัล พาเลซ

นั่นคือเรื่องราวของ 'วีเออาร์' ที่มีส่วนสำคัญกับชัยชนะในรังเกมแรกบนเวทีพรีเมียร์ลีกของ ผีแดง ซึ่งมันมาพร้อมกับความมั่นใจที่ (น่าจะ) ช่วยให้นักเตะฮึกเหิมมากขึ้น

ที่สำคัญมันหมายถึงการคว้าชัยในลีกสองนัดติดต่อกันเป็นหนแรกของฤดูกาลซึ่งนับได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดีของปิศาจแดงกับการเริ่มต้นโปรแกรมโหด (อีกครั้ง) ที่หนนี้จะลากยาวไปจนถึงช่วงต้นปีหน้า

ฤดูกาลที่เริ่มต้นด้วยผลงานกระท่อนกระแท่นเอาแน่เอานอนไม่ได้ ในที่สุดก็สามารถ 'ทำเบรก' คว้าชัยในลีกได้สำเร็จ แม้ว่าจะเป็น 'เบรก' สองเกมติดต่อกันเท่านั้น แต่ก็อย่างที่เรียนไปว่ามันส่งผลดีกับสภาพจิตใจอย่างแน่นอน

สิ่งสำคัญหลังจากนี้และเป็นสิ่งที่พยายามย้ำมาตลอดนั่นคือการรักษาความต่อเนื่องของทีม หรือความคงเส้นคงวาในการคว้าผลการแข่งขันที่ขาดหายไป ซึ่งทำให้ทีมแกว่งไปมาตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2020/21




"มันขึ้นอยู่กับเราในการสร้างโมเมนตัม ตอนนี้เรามีโอกาสในการสานต่อการเริ่มต้นที่ดีในแชมเปี้ยนส์ ลีก (กำลังจะดวลกับ บาชัคเชเฮียร์ วันอังคารนี้) และการออกไปเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน (ในเกมลีกนัดต่อไป) เป็นเกมที่ยากมากๆ เช่นกัน หวังว่าเราจะได้อะไรกลับมาบ้างและสามารถทำงานต่อไปได้" 

อย่างน้อยๆ 'โมเมนตัม' ของทีมดีขึ้น ถึงตรงนี้อยู่ที่การทำงานของโค้ชและนักเตะในการสานต่อสิ่งที่ทำไว้และพัฒนาให้ดีกว่าที่ผ่านมา เพราะอย่าลืมว่าทีมกำลังจะลงสนามอย่างต่อเนื่องไปจนถึงช่วงต้นปีหน้า และหากสามารถจับทิศทางหรือปรับปรุงบางจุดให้ดีขึ้น ทีมก็มีโอกาสในการไต่อันดับขึ้นไปให้ดีกว่านี้ (หรืออาจจะรวมไปถึงบอลถ้วยทั้ง แชมเปี้ยนส์ ลีก และ คาราบาว คัพ)

ปัจจัยสำคัญคือการทำงานร่วมกันของนักเตะซึ่งหลังจากนี้พวกเขาจะไม่มีโปรแกรมทีมชาติมาคั่นกลาง และนั่นหมายถึงพวกเขามีโอกาสทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องมากขึ้น

นี่คือสิ่งที่กุนซือทีมต่างๆ ต้องการ เพราะช่วงที่ผ่านมาเอาแค่การลงสนามอย่างต่อเนื่องก็แทบไม่มีเวลาเตรียมทีมหรือศึกษาในส่วนแท็คติกหรือรายละเอียดต่างๆ แถมยังมีเกมทีมชาติมาคั่นแทบทุกเดือน ยิ่งส่งผลต่อการเตรียมทีม

แต่หลังจากนี้มันคือการทำงานที่แท้จริงที่บรรดากุนซือจะได้เวลาขัดเกลานักเตะรวมไปถึงการได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างเต็มที่เพื่อพาทีมเดินหน้าไปยังจุดที่ต้องการ

สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด นี่คือช่วงเวลาที่ต้องดีดตัวกลับมาและพัฒนาผลงานให้ดีขึ้น รวมไปถึงรักษาความต่อเนื่องเอาไว้ให้ได้เพื่อทดแทนผลงานอันน่าผิดหวังใน (ลีก) ช่วงต้นฤดูกาล

หวังว่าการคว้าชัยใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด นัดที่ผ่านมาจะช่วยต่อยอดผลงานที่ดีขึ้นของทีม และจะเป็นจุดปลี่ยนสำคัญเพื่อผลักดันให้ทีมไปยังที่ที่ควรจะเป็น



คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด