อึดอัดแต่ผ่านมาได้
ใครจะไปคาดคิดว่าทีมที่ชนะเพียงแค่ 2 นัดจากการลงสนามบนเวทีพรีเมียร์ลีก 6 เกมแรกจะสามารถดีดตัวให้ขึ้นมาไล่หลังจ่าฝูงชนิดหายใจรดต้นคอ
ย้อนกลับไปช่วงต้นฤดูกาล บรรยากาศใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไม่สู้ดีนัก ไม่ต่างจากแฟนบอลทั่วโลกที่กระสับกระส่ายถึงขั้นออกมาไล่ โซลชา (อีกครั้ง)
เข้าใจอารมณ์ในตอนนั้นของบรรดาสาวกปิศาจแดง เพราะผลการแข่งขันที่ว่าแย่แล้ว ผลงานของบรรดานักเตะก็เล่นไม่เอาอ่าวดูไม่มีอนาคต แต่จุดเปลี่ยนสำคัญมาเกิดขึ้นในเกมที่ผีแดงออกไปคว้า 3 แต้มที่ กูดิสัน พาร์ค
หลังจากชัยชนะเหนือ เอฟเวอร์ตัน เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โซลชาและลูกทีมเดินหน้าสร้างผลงานยอดเยี่ยมชนะรวม 7 จาก 9 นัด ซึ่งที่เหลือคือผลเสมอกับสองทีมแกร่งอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เลสเตอร์ ซิตี้
แม้ปัจจัยสำคัญจะมาจากเกมนอกรังที่ทำได้ยอดเยี่ยม แต่ต้องไม่ลืมยกความดีความชอบให้กับกุนซือและนักเตะที่สามารถลบคำสบประมาทออกไป
อย่างไรก็ตาม นี่เหมือนจะเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นและออกตัวของฤดูกาล 2020/21 เพราะเกมลงสนามของ แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งผ่านไป 15 นัดเท่านั้น ซึ่งบรรดาแข้งหลักของทีมต่างทราบดีว่ายังคงมีงานหนักรอพวกเขาอยู่หลังจากนี้
กระนั้นหากดูจากความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเล่นที่ค่อยๆ เข้าที่เข้าทาง (บางเกมอาจจะยังน่าผิดหวัง) และที่สำคัญที่สุดคือการได้ผลการแข่งขันตามที่พวกเขาต้องการ คือสิ่งที่ช่วยผลักดันให้ทีมมานั่งรองจ่าฝูง
การคว้าชัยในวันที่เล่นไม่ดีหรือเจอเกมที่อึดอัดคือสิ่งที่ห่างหายไปจาก ปิศาจแดง อยู่นานพอสมควร ย้อนกลับไปในสมัยที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังคงทำหน้าที่เป็นกุนซือใหญ่ ทีมของเขาสามารถคว้าสามแต้มในเกมที่เล่นไม่ดี เอาชนะในช่วงโอกาสหรือจังหวะสุดท้ายอยู่บ่อยครั้ง
นั่นจึงทำให้ชัยชนะเหนือ วูล์ฟแฮมป์ตัน นัดที่ผ่านมาเป็นมากกว่าการคว้า 3 คะแนนที่สำคัญ เพราะมันยังมีส่วนในการเพิ่มความมั่นใจให้กับทีม นอกจากนั้นบรรยากาศภายในทีมที่กำลังอิ่มเอมใจก็ยิ้งทวีคูณมากกว่าเดิม
นัดที่ผ่านมาถือเป็นเกมที่อึดอัดและชวนให้หงุดหงิด เพราะด้วยการเล่นของ หมาป่าจากมิดแลนด์สที่สร้างความปั่นป่วนได้ดีจากความเร็วของ เปโดร เนโต้ และ อาดาม่า ตราโอเร่ ที่รับหน้าที่เป็นแนวรุก บรรดาแนวรับของทีมเยือนต่างเล่นได้ดีไม่แพ้กัน แถมยังมีวินัยในการป้องกันอย่างมาก
ตลอดทั้งเกม ผีแดง แทบจะไม่มีโอกาสทองที่จะได้เฮ มีเพียงจังหวะสำคัญที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ชาร์จจ่อๆ ในครึ่งแรก ส่วนที่เหลือ รุย ปาตริซิโอ แทบไม่ต้องออกแรงเยอะ
ฝั่ง นูโน่ เอสปีรีโต้ ซานโต้ มาเยือน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยแนวคิดที่ชัดเจน พวกเขาเล็งไปที่จังหวะสวนกลับเร็วซึ่งอย่างที่เรียนไปว่าสองแนวรุกพวกเขาป่วนกองหลังเจ้าบ้านได้ดี
ไหนจะวิงแบ็กทั้งสองฝั่งทั้ง คี ยาน่า ฮูเวอร์ และ รายาน เอต์ นูรี ที่เล่นดีทั้งรุกและรับ ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ ยูไนเต็ด เจอปัญหาทั้งในตอนเดินเกมขึ้นหน้าและการคอยพะวงเกมสวนกลับ
จุดนี้ โซลชา มองเห็นและเขาใช้งาน เนมันย่า มาติช ให้เป็นตัวที่คอยเก็บกวาดอีกครั้งเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในนัดดวลกับ เอฟเวอร์ตัน (บนเวที คาราบาว คัพ)
หลายคนตำหนิการเล่นของ มาติช ที่เชื่องช้าต่างจาก เฟร็ด และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ สองกองกลางขวัญใจแม่ยกในตอนนี้ แต่หากลองพิจารณษให้ดีๆ การเล่นของกองกลางเซอร์เบียถือว่ามีส่วนสำคัญในการจัดการจังหวะสวนกลับของ วูล์ฟส์ และคอยแบ่งเบาภาระของบรรดาแนวรับ
จะเห็นได้ว่าเกมสวนกลับในครึ่งหลังของทีมเยือนแทบจะไม่สร้างความอันตรายให้กับ ผีแดง ได้เลย (มีเพียงจังหวะของ เอต์ นูรี ในนาที 81)
เกมที่อึดอัด เกมที่สูสี อีกทั้ง ปิศาจแดง ยังไม่สามารถเจาะการป้องกันของคู่แข่งได้ แต่แล้วประตูก็เกิดขึ้นจากการวางยาวของ บรูโน่ ไปให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด สับไกแฉลบ โรแม็ง ซาอิสส์ เข้าประตูไป
ประตูที่เกิดขึ้นหน้าอัฒจันทร์ฝั่งเสตร็ทฟอร์ด เอนด์ ถือเป็นการปลดเปลื้องแรงกดดัน, อารมณ์ และความรู้สึกของทั้งนักเตะ, โค้ช รวมไปถึงแฟนบอล
อย่างที่เรียนไปว่านอกจากเป็น 3 คะแนนสำคัญ มันยังรวมไปถึงความมั่นใจที่เพิ่มพูนขึ้นมา และมันจะเป็นพลังงานสำคัญในการทำให้นักเตะพร้อมเดินหน้าไปสู่โปรแกรมที่รออยู่
เส้นทางในฤดูกาลนี้ยังคงทอดยาวอีกไกล แต่ผลการแข่งขันรวมไปถึงบรรยากาศที่ดีในตอนนี้ ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าทีมดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา
จากทีมที่ผลงานสะเปะสะปะ แต่ช่วงที่ผ่านมาพวกเขากลายสภาพเป็นทีมที่ดีขึ้นกว่าเดิม นั่นคือผลจากการทำงานหนักของบรรดานักเตะ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าห้ามลดการ์ดและต้องเดินหน้าต่อไป เพราะหากพลาดหรือสะดุดเพียงนิดเดียวก็มีสิทธิ์ที่จะหลุดได้เช่นกัน
เช่นนั้นแล้ว งานสำคัญหลังจากนี้คือการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เก็บเกี่ยวความมั่นใจต่อไป และค่อยมาดูกันว่าปี 2021 ปิศาจแดง ทีมนี้จะไปถึงจุดที่พวกเขาตั้งใจไว้หรือไม่
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT