โถ ... เจ้าผีน้อย
โอกาสเข้าทำที่มากกว่าในช่วง 45 นาทีแรก แต่ได้มาเพียงประตูเดียว ก่อนจะโดนตีเสมอในช่วงต้นครึ่งหลัง (อีกครั้ง) มันคือภาพเดิมๆ ที่แฟนบอลได้เห็นตลอดช่วง 3 เกมหลังสุด
จะว่าตลกร้ายก็ใช่ จะว่าเป็นปัญหาที่น่ากังวลก็ใช่เหมือนกัน เพราะดูเหมือนว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังวิ่งวนอยู่ในวัฏจักรที่หลีกหนีไม่พ้น ซึ่งส่งผลกระทบไปรอบด้านโดยเฉพาะความมั่นใจที่โดนเข้าไปเต็มๆ
อย่างเกมที่ผ่านมามีจังหวะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มีโอกาสพังสกอร์ตั้งแต่ไก่โห่ แฟนบอลหลายคนเตรียมเฮแล้ว แต่ลูกยิงของหัวหอกโปรตุเกสเบาและทิศทางไม่ได้เลยโดยสกัดออกมาจากเส้นประตู
นั่นคือหนึ่งในหลักฐานว่านักเตะปิศาจแดงกำลังขาดความมั่นใจที่โดนกัดกร่อนอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ใครจะไปคิดว่าจังหวะแบบนั้นเจ้าของ บัลลง ดอร์ 5 สมัยจะพลาดและยิงในลักษณะเช่นนั้น
แน่นอนว่ามันมีพลาดกันได้ แต่หากเทียบกับผลงานก่อนหน้านี้ของ 'ซีอาร์7' อย่างไรเสีย จังหวะดังกล่าวควรเป็นสกอร์นำ 1-0
https://twitter.com/RangnickBall/status/1492875590755659779
ที่ว่ามาไม่ได้จะกล่าวโทษ โรนัลโด้ เพราะฟุตบอลมันมีผิดพลาดกันได้ แต่พยายามจะสื่อว่าสิ่งที่น่ากังวลในตอนนี้คือความมั่นใจที่ถดถอยลงมาซึ่งมั่นส่งผลเป็นวงกว้าง นอกจากนั้นจะกล่าวโทษคนๆ เดียวก็ใช่เหตุเพราะฟุตบอลเป็นเกมที่เล่นเป็นทีม เมื่อพลาดขึ้นมาทุกๆ คนต้องมีส่วนรับผิดชอบ
อย่างนัดล่าสุดไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ ทีมเริ่มต้นได้ดีดุดันดูมีชีวิตชีวากว่า เซาธ์แฮมป์ตัน แต่ผลต่างแค่ประตูเดียวไม่เคยพอและปลอดภัยซึ่งมันพิสูจน์ให้เห็นแล้วในช่วงต้นครึ่งหลัง
จากรูปเกมที่ทำได้ดีกว่าตั้งแต่ต้นเกม มันค่อยๆ ถดถอยลงมาจนทาง นักบุญ เริ่มตั้งเกมและเล่นงานแนวรับผีแดง สัญญาณเริ่มส่งออกมาดีที่ว่า สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง ไม่เฉียบคมทำให้ ยูไนเต็ด ยังครองความได้เปรียบเมื่อสิ้นเสียงนกหวีด 45 นาทีแรก
กระนั้นบทเรียนที่เคยผ่านพบมาเหมือนจะไม่ซึมเข้าสมอง ลงสนามในครึ่งหลังไปเพียง 2 นาทีเศษก็โดนตีเสมอจากจังหวะง่ายๆ ง่ายเสียจนเหมือนแจกประตูให้ฝั่งตรงข้ามฟรีๆ ซึ่งจุดนี้แนวรับและการป้องกันต้องรับไปทั้งหมดแบบไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ
หลังจากนั้นแม้ทาง ผีแดง จะพยายามครองเกมกดดันมากเท่าไหร่ แต่กลับไม่มีความเด็ดขาดมากพอ และที่สำคัญคือ 'วินัย' ในแนวรุกที่โดนแนวรับ เซาธ์แฮมป์ตัน เล่นงานทั้งการดักล้ำหน้าหรือตัดจังหวะ ไหนจะปัญหาเดิมๆ คือการประสานงานที่ไม่ลงล็อก ทำให้ผลการแข่งขันที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด จบที่ 1-1
จะว่าไปช่วงหลังเมื่อ ปิศาจแดง ลงสนาม แฟนบอลในโลกออนไลน์จะได้ 'มีม' ใหม่ๆ มาเล่นกันอย่างสนุกสนาน (ส่วนตัวก็กดหัวใจและแอบขำปนสลดกับทีมของตนเอง) เป็นที่ถูกใจของแฟนบอลและกองแช่งอย่างมาก
ล่าสุดมีคนนำเอาการป้องกันนช่วงท้ายเกมของ แม็กไกวร์ ไปเปรียบเทียบกับจังหวะยิงหรือส่งบอลแบบไม่มอง โดยระบุว่า 'แม็กไกวร์ เพิ่งสร้างการเล่นแบบใหม่ด้วยการป้องกันแบบไม่มองคู่แข่ง'
ไอ้ขำมันก็ขำอยู่หรอก แต่สำหรับแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด คงขำแบบแห้งๆ ปนสลดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าเราหนีความจริงไปไม่ได้ เพราะตอนนี้ทีมไม่ต่างจากตัวตลกในสายตาแฟนบอลทีมอื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อมันมาจากเจ้าของกองหลังที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก
ไหนจะจังหวะทำประตูในครึ่งหลังที่โดนจับล้ำหน้าเกือบยกทีม สำหรับคนอื่นๆ มองเป็นเรื่องตลก (ไม่ต่างจากแฟนผีแดง) แต่หากลองพิจารณาลงไปแล้วจะพบว่าทีมไร้ซึ่ง 'วินัย' ในการเล่นและไม่มีสมาธิในเกมมากพอจนโดนการป้องกันของฝั่งเซาธ์แฮมป์ตันจัดการจนเสียหมา
นี่เป็นปัญหาอีกจุดที่โผล่ขึ้นมาในยามที่ทีมไม่ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ ผ่านไปแต่ละเกมดูเหมือนว่าจะมีการบ้านและเรื่องราวให้แก้ไขมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา
วันอังคารนี้เกมพรีเมียร์ลีกนัดตกค้างจะลงสนามต่อเนื่องในการเปิดบ้านรับมือ ไบรท์ตัน แม้ทีมต้องการ 3 คะแนนแต่หากพิจารณาจากผลงานล่าสุดต้องยอมรับว่าคงต้องเหนื่อยอีกแน่นอน
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการฉวยโอกาสให้ดีกว่าที่ผ่านมา นอกจากนั้นคือการยืนระยะตลอดทั้งเกมอย่าให้เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่ทำได้ดีเพียงครึ่งเดียวก่อนจะแผ่วลงไป
ตอนนี้ก็คงได้แต่ภาวนาว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะดีขึ้นและมีฮึดบ้าง อย่างน้อยๆ เอา 3 คะแนนมาเป็นของขวัญให้แฟนบอลสักหน่อยก็ยังดี
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT