แตกต่างเหมือนกัน
ไม่ว่าจะเป็น ราฟา เบนิเตซ ที่หาญกล้าไปสอน คริสเตียโร่ โรนัลโด้ ถึงวิธีการยิงฟรีคิกสมัยร่วมงานที่ เรอัล มาดริด หรือจะเป็นเหล่าเซนเตอร์แบ็กวัยหนุ่มของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ต้องการคำชี้ทาง ทั้งหมดนั้นเป็นองค์ประกอบสำหรับการก้าวไปสู่ระดับท็อป
ฟูลแบ็กชาวโมร็อกโกที่ปัจจุบันเล่นอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อย่าง อาชราฟ ฮาคิมี่ เองก็เช่นกัน เขามี ดาเนียล การ์บาฆาล เป็นต้นแบบในการก้าวออกจากถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว ไปแจ้งเกิดในเวทีบุนเดสลีกา
หากคุณยังไม่รู้ ฮาคิมี่ เข้ามาร่วมทีมราชันชุดขาวในวัยเพียง 8 ขวบ และหลังจากถูกดันขึ้นมาเล่นในทีมสำรองเมื่อปี 2016 เขาก็ถูกโยนเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ในการทัวร์ปรีซีซั่นช่วงซัมเมอร์นั้น
มันเป็นจุดเริ่มต้นของแบ็กขวามากพรสวรรค์สำหรับการเป็นหนึ่งในดาวรุ่งน่าจับตามองมากที่สุดของ 5 ลีกใหญ่ยุโรป
คุณลองคิดดูเอาเองแล้วกัน ถ้าคุณต้องรับมือทั้ง โรนัลโด้ และ แกร็ธ เบล ในการฝึกซ้อมทุกๆ วัน คุณจะมีโอกาสกลายเป็นนักเตะระดับโลก หรือถูกทิ้งไว้ในห้องมืด
หลังจากได้เปิดตัวนัดแรกกับทีมชุดใหญ่ในปี 2017 ดาวเตะชาวโมร็อกโกก็ยังคงมีโอกาสเพียงน้อยนิดในทีม เนื่องจากมีทั้ง การ์บาฆาล และ นาโช่ ที่ขวางทางเขาอยู่ภายใต้การนำทัพของ ซีเนดีน ซีดาน
แม้จะแทบไม่ได้ลงเล่นสักเท่าไหร่ แต่ ฮาคิมี่ ก็มีโอกาสลงสนามไป 2 นัดในแชมเปี้ยนส์ลีก และก็ร่วมคว้าแชมป์กับ เรอัล ซึ่งถือเป็นโทรฟี่สมัยที่ 3 ติดต่อกันของทีมเมื่อปีที่แล้วด้วย มันไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะสำหรับเด็กหนุ่มวัยเพียง 19 ปี
อย่างไรก็ตาม การที่ ซีดาน อำลาทีมไป รวมถึง การ์บาฆาล ก็หายเจ็บกลับมา นั่นทำให้โอกาสในทีมชุดแรกของ ฮาคิมี่ นั้นเริ่มอยู่ห่างไกลออกไปเรื่อยๆ ดังนั้นมันจึงเป็นเวลาที่เขาจำต้องคิดถึงสิ่งใหม่ๆ บ้างแล้ว
หลังจากได้เฝ้าติดตาม และเรียนรู้จาก การ์บาฆาล ในทุกๆ วันระหว่างซ้อม ฮาคิมี่ ก็พร้อมที่จะโบยบินเพื่อหาโอกาสในการลงเล่นเกมระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ
เขาได้ขอคำปรึกษาจากดาวเตะสแปนิชซึ่งถือเป็นหนึ่งในกองหลังที่เก่งที่สุดในโลกพ่วงดีกรีแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัย โดยถามว่าตัวเองควรจะเอายังไงดี
การ์บาฆาล แนะนำให้เขาควรที่จะไปบุนเดสลีกาที่ซึ่งเขาจะสามารถผลิตศักยภาพให้ผลิดอกออกผลให้อย่างเต็มที่ ซึ่งมันสะท้อนถึงช่วงเวลาของ การ์บาฆาล ที่ เลเวอร์คูเซ่น
"ผมได้รับข้อเสนอมากมาย แต่ดอร์ทมุนด์เป็นหนึ่งในทีมให้ความเชื่อมั่น" ฮาคิมี่ กล่าว
"พวกเขาเป็นทีมที่เล่นฟุตบอลแบบดึงดูดใจอย่างมาก และพยายามให้โอกาสกับเหล่านักเตะอายุน้อยด้วย"
"ผมมีการ์บาฆาลขวางหน้าที่มาดริด แต่เขาบอกผมว่าใช้โอกาสนั้นให้มากที่สุดเพื่อลงเล่น และสนุกไปกับมัน"
ฮาคิมี่ ย้ายไปร่วมทัพเสือเหลืองด้วยสัญญายืมตัว 2 ปี และกลายเป็นดาวเด่นในทีมของ ลูเซียง ฟาฟร์ ในเยอรมันแทบจะทันที
หลังจากผ่านมาครึ่งฤดูกาล ตอนนี้เขาได้ชื่อว่าเป็นฟูแบ็กชั้นยอดของบุนเดสลีกาไปเสียแล้ว และนี่ก็ไม่เลวเลยอีกเหมือนกันสำหรับเด็กหนุ่มอายุเพียง 20 ปี
แม้เขาต้องรอถึงนัดที่ 5 กว่าจะได้เปิดตัวเกมแรกกับ ดอร์ทมุนด์ แต่นับจากนั้นเขาก็ถูกใช้งานเป็นแบ็กขวา ก่อนจะถูกโยกไปเล่นทางซ้าย และทำได้อย่างยอดเยี่ยม
หลังจากสร้างความประทับใจในลีก ฮาคิมี่ ก็ถึงเวลาแจ้งเกิดในระดับยุโรปเสียที
ดอร์ทมุนด์ ต้องเปิดบ้านรับมือ แอต. มาดริด ในแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งนี่คือทีมคู่แค้นตลอดกาลของต้นสังกัดที่แท้จริงของเขา
ฟอร์มของ ฮาคิมี่ ต้องบอกว่าเด่นที่สุดในสนามวันนั้น ในตำแหน่งแบ็กซ้ายเขาทำได้ถึง 3 แอสซิสต์ บนชัยชนะ 4-0 และสร้างความหงุดหงิดให้กับ ฆวนฟราน แทบทั้งเกมเลยทีเดียว
และการเล่นของเขาก็ทำให้เกิดรอยยิ้มอย่างมากมายรอบถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว
เส้นทางการค้าแข้งของ ฮาคิมี่ กำลังมั่นคงขึ้นเรื่อยๆ และในฟุตบอลโลกที่ผ่านมาเขาก็ได้ออกสตาร์ทตัวจริงทั้ง 3 นัด รวมถึงซีซั่นนี้ก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าสามารถก้าวข้ามไปอีกขึ้นแล้ว
ผลงานในสนามของเขาช่างสง่างาม เขาเป็นฟูลแบ็กที่มีความรวดเร็ว และสามารถเล่นได้ทั้งสองฝั่ง
แต่!!!
คำถามสำคัญเลยก็คือจุดหมายปลายทางของเขานั้นอยู่ที่ไหน
ตอนนี้เขาเป็นกำลังหลักในแผงแนวรับของทีมที่มีหลังบ้านดีที่สุดเป็นอันดับสองในลีก และเชื่อได้เลยว่าเสือเหลืองเองก็อยากจะเก็บเขาไว้กับทีมอย่างถาวร
ทว่าการที่ ฟาฟร์ จับเขาไปแจ้งเกิดในตำแหน่งแบ็กซ้ายก็อาจกลายเป็นดาบสองคม
อย่าลืมว่าแม้ มาดริด จะยังมี การ์บาฆาล ที่อายุเพิ่ง 26 ปี และมีโอกาสครองตำแหน่งแบ็กขวาที่เบร์นาเบวไปอีกยาวนาน แต่ มาร์เซโล่ กำลังอยู่ในช่วงขาลงแล้ว และ ฮาคิมี่ ก็อาจเป็นตัวตายตัวแทนตรงนั้นได้
แล้วเราจะได้เห็นกันว่า ฮาคิมี่ จะเลือกทางเดินของเขาไว้แบบใด...
พาสต้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT