ก้าวสำคัญของ เคอร์ติส โจนส์
สำหรับ เคอร์ติส โจนส์ ตอนนี้เวลานั้นมาถึงแล้ว
มันอาจฟังดูแปลกนิดหน่อย เพราะเรากำลังพูดถึงนักเตะที่ใกล้จะลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล ครบ 75 เกมแล้ว แต่ถ้าดาวเตะวัย 21 ปี สามารถก้าวไปอีกขั้นในถิ่นแอนฟิลด์ได้ ความรู้สึกเหล่านั้นมันอาจมาถึงในไม่ช้า
ด้วยความชัดเจนของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ต้องการจะเสริมศักยภาพในแผงมิดฟิลด์ ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังผู้เล่นที่เขามีอยู่แล้ว
ในบ้างที่จะก้าวขึ้นมาได้? ใครบ้านที่สามารถทำให้ตัวเองอยู่ในการแข่งขันอย่างถาวรทั้งในระยะสั้น และระยะยาว?
โจนส์ เป็นหนึ่งในคนที่จะถูกจับจ้องมากที่สุด พรสวรรค์ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ และสมาชิกที่แข็งแกร่งในทีมชุดใหญ่ของ หงส์แดง ความท้าทายที่ชัดเจนสำหรับดาวเตะจากอะคาเดมี่รายนี้คือการมีส่วนสำคัญในทีม และอยู่ที่นั่นแบบถาวร
ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2020-21 ในแง่ของการออกสตาร์ทตัวจริง และจำนวนนาทีที่ลงสนาม เขาเป็นมิดฟิลด์ที่ถูกใช้งานมากที่สุดอันดับ 5 ของ คล็อปป์ โดยมีเพียง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลกันตาร่า และ นาบี เกอิต้า ที่สัมผัสฟลอร์หญ้ามากกว่า โจนส์ ที่ลงเล่นไป 34 เกม และเล่นไปมากกว่า 1,500 นาทีในทุกรายการ
แต่ในซีซั่นที่ผ่านมา เขาเกิดอาการติดหล่มจากทั้งอาการป่วย และอาการบาดเจ็บ
โจนส์ มีอาการคอนคัสชั่นตั้งแต่ช่วงก่อนเริ่มต้นฤดูกาลเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว จากนั้นก็ต้องพักยาวถึง 2 เดือนจากอาการบาดเจ็บที่แปลกประหลาดบริเวณดวงตาซึ่งเกิดขึ้นในการซ้อมเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน และในที่สุดเมื่อเขากลับมาฟิตอีกครั้งก็ดันมาติดเชื้อโควิด-19 อีก ทำให้เจ้าตัวต้องหลุดทีมไปอีก 2 เกม
อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อสังเกตด้วยว่าเมื่อถึงจุดที่สภาพความพร้อมเต็มที่มากที่สุด โจนส์ ก็พบว่าตัวเองถูกกีดกันเป็นส่วนใหญ่
เขาได้ลงเล่นตัวจริงเพียง 2 จาก 15 เกมหลังสุดของ ลิเวอร์พูล ในทุกรายการ โดยเป็นตัวสำรองอีก 2 นัด ที่รวมเวลาเพียง 13 นาทีเท่านั้น
เขาไม่ได้ถูกใช้งานทั้งเกมเอฟเอ คัพ และแชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ แถมยังไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรองในเกมคาราบาว คัพ ที่เอาชนะ เชลซี ที่เวมบลีย์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์อีกด้วย
แม้จะมีช่วงเวลาที่ดีอยู่บ้างกับประตูที่ยอดเยี่ยมในเกมเยือน เบรนท์ฟอร์ด, แฮตทริกแอสซิสต์ในนัดพบ ปอร์โต้ ในแชมเปี้ยนส์ลีก และผลงานระดับท็อปคลาสเกมเยือน อาร์เซน่อล ในนัดสองของถ้วยคาราบาว คัพ รอบตัดเชือก แต่การต่อสู้ของ โจนส์ ในตอนนี้ก็คือความสม่ำเสมอ อันดับแรกคือต้องเรียกฟอร์มกลับมาให้ได้ก่อน และจากนั้นก็ค่อยหวังเรื่องโอกาสลงสนาม
คล็อปป์ เคยพูดถึงพัฒนาการของดาวรุ่งรายนี้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า "ผมรักเด็กคนนี้ และรักในศักยภาพที่เขามี"
"แต่ตอนนี้เราต้องก้าวไปอีกขั้น และทำให้แน่ใจว่าเขาจะเติบเต็มศักยภาพที่เขามีในสนาม"
"เขายังเด็ก ยังเด็กมาก แต่จากสิ่งที่ผมเห็นจากศักยภาพของเขานั้นช่างน่าเหลือเชื่อ ดังนั้นจึงต้องหาวิธีที่จะได้โชว์มันให้มากขึ้น"
"นั่นคือจุดที่เราอยู่สำหรับการพัฒนาของ เคอร์ติส"
"ผมเป็นหนึ่งในแฟนตัวยงของเขา"
แต่มันก็น่าสนใจเหมือนกันที่ได้ยิน ลี คาร์สลี่ย์ ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษชุดยู-21 พูดทำนองเดียวกันในช่วงต้นเดือนนี้เมื่อมีการสัมภาษณ์ถึงพัฒนาการของเขา
ความรู้สึกที่ชัดเจนก็คือมันยังมีอะไรที่ต้องปลดล็อกจากเขาอยู่
"มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผมที่ เคอร์ติส ไม่ได้ลงเล่น" คาร์สลี่ย์ กล่าว
"เขาต้องเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในทุกๆ วัน และทุกเกม"
"ผมคิดว่าเขาสามารถทำประตูได้มากกว่านี้ แอสซิสต์ได้มากกว่านี้ ยามที่เขาอยู่ตรงหน้าปากประตู เขามีคุณในจุดนั้น เขาต้องแสดงออกมาอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอเพื่อเรา"
โจนส์ มีของขวัญที่ติดตัวมาอย่างชัดเจนอยู่แล้ว การสัมผัสของเขา, บาลานซ์ และความสามารถรับ และเก็บบอลภายใต้ความกดดันทั้งหมดนั้นอยู่ในระดับสูงที่สุด ในขณะที่ เป๊ป ไลน์เดอร์ส มือขวาของ คล็อปป์ ได้อธิบายว่าเขามีร่างกายที่เหมือนเครื่องจักรที่ให้ความเสี่ยงกับทีมในทุกที่ และทุกเวลาที่เขาเล่น
บางคนอาจตั้งคำถามถึงประโยคสุดท้ายนั้น แต่มันเป็นความเสี่ยงในเชิงชื่นชมที่มาจากปากของ ไลน์เดอร์ส
โจนส์ เข้ามายังทีมชุดใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ในฐานะผู้เล่นที่เสี่ยงเพื่อให้ทีมได้ประโยชน์ เขามีเต็มไปด้วยเทคนิก และลีลา และเหนือสิ่งอื่นใดก็มีความมั่นใจในตัวเองที่มากเกินไปด้วย
แต่ในขณะที่สภาพร่างกาย และวินัยทางแท็คติกของเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างมาก มันก็ยังมีอะไรที่ขาดหายไปในแง่ของความสามารถที่จะสร้างอิทธิพลต่อเกมอย่างต่อเนื่องในพื้นที่แดนสาม
ตัวอย่างเช่นฤดูกาลที่ผ่านมา เขาทำได้เพียงประตูเดียวในเกมกับ เบรนท์ฟอร์ด ในขณะที่แอสซิสต์เดียวในพรีเมียร์ลีกให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในเกมกับ แมนฯ ซิตี้ เมื่อเดือนตุลาคม ความจริงก็คือดาวเตะอียิปต์ไม่ได้ทำสกอร์จากลูกจ่ายนั้นแบบถวายพานเลยจริงไหม?
คล็อปป์ ยังจำครั้งแรกที่เขาเห็น โจนส์ วัย 15 ปี ในช่วงซ้อมให้ทีมของ ไลน์เดอร์ส ที่เมลวู้ด ได้ไม่ลืม
"ผมมองออกไปนอกสำนักงาน และมันก็ อู้...ว้าว!" คล็อปป์ กล่าว
"คำถามต่อไปก็คือ 'เขาอายุเท่าไหร่กัน?' เห็นได้ชัดว่าเขามีพรสวรรค์อย่างยิ่งใหญ่"
"แต่พรสวรรค์ก็ต้องทำงาน และเรียนรู้ในเกมด้วย เขาทำอย่างนั้นทุกวัน ทว่าบางครั้งพวกเขาก็ต้องการแรงผลักดัน และ เคอร์ติส ดูเหมือนจะเป็นชายคนนั้น"
ลิเวอร์พูล เองก็ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะยอมแพ้ต่อการปั้น โจนส์ ในเร็ววันนี้ พวกเขาได้ปฏิเสธข้อเสนอยืมตัวจาก ลีดส์ เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว และก็มีรายงานว่าข้อเสนอ 15 ล้านปอนด์ จาก แอสตัน วิลล่า ถูกปัดตกไปเช่นกัน
ศรัทธาของพวกเขาที่มีต่อ โจนส์ นั้นไม่ต่างจาก ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ที่หวังจะก้าวมายึดตำแหน่งตัวจริงในฤดูกาลใหม่ ซึ่งนั่นเป็นหนึ่งเหตุผลที่ หงส์แดง พร้อมจะใช้เวลากับเหล่าดาวรุ่งก่อนจะมีการตัดสินใจเซ็นสัญญากับมิดฟิลด์คนใหม่ด้วยเงินก้อนโต
หากใครคนใดคนหนึ่ง หรือทั้งสองคนนั้นสามารถก้าวไปอีกขั้นได้ในเร็วๆ นี้ สถานการณ์ก็อาจจะแตกต่างออกไปในทันที
มันเป็นเวลากว่า 3 ปีครึ่งแล้วนับตั้งแต่ โจนส์ เปิดตัวในฐานะแข้งอาชีพ และ 2 ปีครึ่งนับตั้งแต่ที่เขาประกาศตัวเองบนเวทีใหญ่ด้วยประตูชัยอันน่าทึ่งในเกมเอฟเอ คัพ ที่แอนฟิลด์ กับ เอฟเวอร์ตัน
เขาก้าวหน้าไปมากนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่ตอนนี้เขาต้องเร่งเครื่องตัวเองเพื่อพบเจอก้าวที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ฤดูกาล 2022-23 อาจเป็นซีซั่นที่กำหนดทิศทางอาชีพค้าแข้งของเด็กหนุ่มสเก๊าเซอร์ได้เลย
พาสต้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT