กัคโป ตรงไหนดี?
หลังฉลองวันคริสต์มาสด้วยชัยชนะ 3-1 เหนือ แอสตัน วิลล่า จากนั้นก็มีข่าวดีเพิ่มเติมสำหรับเหล่าเดอะ ค็อป เมื่อมีการประกาศบรรลุข้อตกลงคว้าตัว โคดี้ กัคโป มาจาก พีเอสวี เมื่อคืนวันพฤหัสบดี
ข้อตกลงนี้มีมูลค่าเริ่มต้น 37 ล้านปอนด์ และจะเพิ่มไปถึง 44 ล้านปอนด์ ตามเงื่อนไขของโบนัส
ปฏิบัตการครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่ ผีแดง เป็นผู้นำในการล่าตัวดาวเตะวัย 23 ปี มาโดยตลอด แต่สุดท้ายนักเตะกลับกลายเป็นการเสริมทัพที่สำคัญในทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ หลังจากที่ หลุยส์ ดิอาซ และ ดีโอโก้ โชต้า ได้รับบาดเจ็บยาว
คำถามหลังจากนี้ก็คือ กัคโป เหมาะสมที่จะเล่นตรงไหนในถิ่นแอนฟิลด์...
ลงตรงกลางไปเลย
จุดแข็งหลักของ กัคโป นั้นชัดเจนว่าเขาทำประตูได้ และสร้างสรรค์เกมได้ และนั่นทำให้เขาเป็นแคนดิเดตที่จะเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวกลาง
สถิติของเขากับ พีเอสวี ในฤดูกาลนี้ถือว่าน่าประทับใจมาก ด้วยผลงาน 12 ประตู และ 14 แอสซิสต์ จาก 19 นัดทั้งในเอเรดิวิซี่ และยูโรปา ลีก ฟอร์มของเขายังต่อยอดมาถึงฟุตบอลโลกที่กาตาร์ ซึ่งทำได้ 3 ประตู ช่วยให้ ฮอลแลนด์ ไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ
เขาไม่ใช่ผู้เล่นเบอร์ 9 แบบธรรมชาติ แต่นั่นอาจเหมาะกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งมี โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เป็นฟอลส์ไนน์มายาวนาน
กัคโป ไม่ใช่ ฟีร์มีโน่ แต่แน่นอนว่าเขามีความสามารถในการลงต่ำมายังพื้นที่ลึกกว่า และเชื่อมเกม ซึ่งนั่นจะเป็นประโยชน์กับผู้เล่นอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ดาร์วิน นูนเญซ ที่อยู่ริมเส้นทั้งสองฝั่ง แต่ทั้งสองก็มีความสามารถพิเศษในการขยับมาตรงกลางเพื่อค้นหาตำแหน่งเพื่อทำประตู
การจัดทีมที่คาดสำหรับแผนนี้ (4-3-3) : อาลีสซง - อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, มาติป, ฟาน ไดค์, โรเบิร์ตสัน - เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, ติอาโก้ - ซาลาห์, กัคโป, นูนเญซ
ลงปีกซ้าย
ช่วงเวลาส่วนใหญ่ในอาชีพของ กัคโป ที่ พีเอสวี นั้นถูกใช้ไปกับตำแหน่งริมเส้น และมันเป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นว่าเขามีความสามารถที่จะสร้างความแตกต่างให้กับ ลิเวอร์พูล ตรงกราบซ้าย อย่างน้อยก็ในช่วงที่ ดิอาซ กำลังฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บหัวเข่า
เขาไม่ได้รวดเร็วแบบสายฟ้าฟาด แต่แน่นอนว่าเขาก็ไม่ได้ช้า และความปรารถนาของเขาที่จะเล่นด้วยเท้าขวาก็เหมาะกับการที่ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน จะทะลุขึ้นมาเติมเกมรุกจากแบ็กซ้าย
ตำแหน่งของ กัคโป ชัดเจนขึ้นในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เขาทำงานพิเศษร่วมกับ โลรัน ฟรีลิงค์ โค้ช และผู้ก่อตั้ง Tactalyse ซึ่งเป็นบริษัทที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักฟุตบอลเข้าใจเกมของพวกเขาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งหมายความว่าเขาน่าจะรับมือกับเกมเข้มข้นของพรีเมียร์ลีก และเกมเพรสซิ่งที่หนักหน่วงของ ลิเวอร์พูล ในขณะเดียวกันความอันตรายในการลุ้นประตูของเขาก็ทำให้เขามีความเป็นธรรมชาติในแผงแนวรุกมากกว่า ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน หรือกระทั่ง เคอร์ติส โจนส์
การจัดทีมที่คาดสำหรับแผนนี้ (4-3-3) : อาลีสซง - อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, มาติป, ฟาน ไดค์, โรเบิร์ตสัน - เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, ติอาโก้ - ซาลาห์, นูนเญซ, กัคโป
ฐานะแข้งเบอร์ 10
แล้วถ้ามีการเปลี่ยนระบบล่ะ?
ลิเวอร์พูล ได้ลองใช้แผน 4-4-2 และ 4-2-3-1 มาหลายครั้งในฤดูกาลนี้ และด้วยความสงสัยเกี่ยวกับโครงสร้าง และความแข็งแกร่งของแผงมิดฟิลด์ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะเห็นพวกเขาเล่นแบบนั้นอีกครั้ง โดยมี กัคโป เพิ่มเข้ามา
เขาดูเล่นได้แบบสบายๆ เลยในฐานะเบอร์ 10 ให้ทีมชาติฮอลแลนด์ในฟุตบอลโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เล่นกับ เมมฟิส เดอปาย และความสามารถของเขาในการผ่านบอลสุดท้าย ทั้งการจ่าย และการยิงประตู นั่นจะทำให้ คล็อปป์ มีมิติพิเศษมากขึ้นหากเขาเลือกใช้งานกองหน้าทั้ง 4 คน
มันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะจินตนาการว่า กัคโป เล่นอยู่ข้างหลัง นูนเญซ หรือ ซาลาห์ หรือ ฟีร์มีโน่ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เน้นเรื่องการครองเกม
การจัดทีมที่คาดสำหรับแผนนี้ (4-2-3-1) : อาลีสซง - อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, โกนาเต้, ฟาน ไดค์, โรเบิร์ตสัน - ฟาบินโญ่, ติอาโก้ - ซาลาห์, กัคโป, นูนเญซ - ฟีร์มีโน่
อนาคตระยะยาวล่ะ?
เมื่อมองไปไกลยังอนาคต มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะเห็นว่า คล็อปป์ จะจัดการกับตัวเลือกที่มากมายของเขาอย่างไร
การเซ็นสัญญากับ กัคโป ทำให้เกิดข้อสงสัยในอนาคตของ ฟีร์มีโน่ โดยดาวเตะชาวบราซิเลี่ยนจะหมดสัญญาในซัมเมอร์นี้ และแม้ว่าโอกาสขยายข้อตกลงจะยังมีอยู่ แต่มันก็รู้สึกว่าเป็นไปได้ยากที่ หงส์แดง จะเก็บกองหน้าระดับท็อปไว้ในทีมชุดใหญ่ถึง 6 คน ด้วยเหตุผลเดียวกันนี้เกือบจะแน่นอนแล้วว่า อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน จะถูกปล่อยออกไปแบบไร้ค่าตัวในช่วงจบฤดูกาลนี้
คล็อปป์ หวังว่าเขาจะมีทางเลือกหลากหลายที่ครอบคลุมทั้งหมด ความฉลาด และความคงเส้นคงวาที่ไม่เคยหยุดของ ซาลาห์, พลังงานของ ดิอาซ, ความสามารถในการเพรสซิ่ง และความเก่งในกรอบเขตโทษของ โชต้า, การเล่นแบบคาดเดาไม่ได้ และการหาช่องวิ่งอันยอดเยี่ยมของ นูนเญซ และตอนนี้ก็การสร้างสรรค์เกม และการทำประตูของ กัคโป
ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังมีศักยภาพของดาวรุ่งอีกมากอาทิ คาร์วัลโญ่ วัย 20 ปี, เคด กอร์ดอน หรือกระทั่ง เบน โด๊ค และอีกหลายคน
รวมแล้วมันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นของ ลิเวอร์พูล จนกว่าจะมีการทำงานเรื่องมิดฟิลด์คนใหม่เข้ามา
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT