:::     :::

เกิดอะไรขึ้นกับ 'ไอ้แรช'

วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2567 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
796
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นหนึ่งในนักเตะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก

เขาลงเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป 426 นัด และอยู่กับทีมอันดับ 12 ในรายชื่อผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของสโมสรด้วยผลงาน 138 ประตู

ดาวเตะวัย 27 ปี คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ และอีเอฟแอล คัพ มาแล้ว 2 สมัย นอกจากนี้เขายังได้แชมป์ยูโรปา ลีก อีกด้วย เขาติดทีมชาติอังกฤษไปแล้ว 60 นัด

สำหรับเกียรติประวัตินอกสนาม เขาได้รับรางวัล เอ็มบีอี ในปี 2021 จากการทำงานเพื่อช่วยเหลือเด็กยากจน

แต่ตอนนี้ อาชีพของเขากลับกำลังมืดมนท่ามกลางความเชื่อว่าวันเวลาของเขากับ ยูไนเต็ด กำลังจะหมดลง หลังจากที่เขาถูกดร็อปในเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้


มันมาถึงจุดนี้ได้ยังไง?

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ปี 2023 แมนฯ ยูไนเต็ด ยืนยันว่า แรชฟอร์ด ได้ต่อสัญญาฉบับใหม่ไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน ปี 2028 ซึ่งถือเป็นการจบข่าวลือต่างๆ นาๆ เนื่องจากสัญญาฉบับเดิมของ แรชฟอร์ด ในเวลานั้นเหลือแค่ 12 เดือน และเขาก็เชื่อมโยงกับหลายทีมใหญ่ทั่วยุโรป

การย้ายก็อาจดูสมเหตุสมผล แรชฟอร์ด เพิ่งทำได้ 30 ประตูระหว่างฤดูกาล 2022-23 และเขาก็อายุแค่ 25 ปี

หลังจากยิงไม่ได้มา 3 เกม เขาก็ยิงประตูแรกในเกมแพ้ อาร์เซน่อล 1-3 เมื่อวันที่ 3 กันยายน

เขายิงประตูไม่ได้ในอีก 13 เกม ขณะที่ ยูไนเต็ด เริ่มฟอร์มตกภายใต้การทำงานของ เอริก เทน ฮาก

ในเดือนมกราคม แรชฟอร์ด โดนดร็อปในเกมเอฟเอ คัพ กับ นิวพอร์ต หลังพลาดการซ้อมเนื่องจากป่วย เหตุเพราะเขาใช้เวลาเดินทางนานกว่าที่วางแผนไว้ในการไปเที่ยวเบลฟาสต์ ซึ่งอันที่จริงเป็นการเดินทางที่ได้รับอนุญาต และเขาก็ถูกถ่ายภาพขณะเข้าไปไนท์คลับและดื่มเตกีล่า

แม้ แรชฟอร์ด จะทำประตูแรกในยุคของ รูเบน อาโมริม ด้วยเวลาแค่ 81 วินาที ในเกมกับ อิปสวิช เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน แต่นายใหญ่คนใหม่ของ ผีแดง ยอมรับว่ากองหน้าตัวเป้าไม่ใช่ตำแหน่งที่ดีที่สุดของดาวเตะวัย 27 ปี โดย แรชฟอร์ด เป็นตัวจริง 3 นัด และสำรอง 3 นัด จาก 6 เกมแรกของ อาโมริม

แต่ที่สำคัญคือเขาต้องอยู่บนม้านั่งสำรองในเกมพรีเมียร์ลีกกลางสัปดาห์ที่ไปเยือน อาร์เซน่อล และเกมเหย้ากับ ฟอเรสต์ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ก่อนที่จะเล่นตัวจริงในเกมยูโรปา ลีก กับ วิคตอเรีย พิลเซ่น วันที่ 12 ธันวาคม แต่ก็ถูกเปลี่ยนออกในนาทีที่ 56 ขณะที่ ยูไนเต็ด ยังมีสกอร์ตามหลัง 0-1 ก่อนที่ทีมจะพลิกกลับมาเอาชนะ 2-1

จากนั้นเขาก็ถูกดร็อปพร้อมกับ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ในเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ โดยหลังจบเกม อาโมริม อธิบายเหตุผลว่า "ประสิทธิภาพในการซ้อม การกิน การผลักดันเพื่อนร่วมทีม ล้วนมีความสำคัญตั้งแต่แรกเริ่ม เมื่อคนในสโมสรของคุณเสียงานของเขา เราต้องตั้งมาตรฐานให้สูงมาก"


ทำไม แรชฟอร์ด ถึงเต็มไปด้วยเสียงวิจารณ์?

ถึงจุดหนึ่ง ผู้จัดการทีมทุกคนต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตาม ผลลัพธ์ของการตัดสินใจเหล่านั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพวกเขา

ช่วงเวลาของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ ยูไนเต็ด เต็มไปด้วยการตัดสินใจครั้งสำคัญ ตั้งแต่การไล่ พอล แม็คกรัธ และ นอร์แมน ไวท์ไซด์ ออก แต่ยังคงให้ ไบรอัน ร็อบสัน อยู่ต่อจนถึงช่วงเริ่มกลับมายิ่งใหญ่ จนไปถึงการปล่อย ปอล ป็อกบา ออกจากทีม

อาโมริม รู้ดีว่าผลที่ตามมาจากากรตัดสินใจที่จะไม่ใช้งาน แรชฟอร์ด เป็นอย่างไร

หาก ยูไนเต็ด แพ้ แมนฯ ซิตี้ คำถามต่างๆ จะถาโถมเข้าหาเขาถึงการมีเพียง โจชัว เซิร์กเซ่ อยู่บนม้านั่งสำรองในฐานะผู้เล่นตัวรุกแค่คนเดียว แต่ต้องขอบคุณ อาหมัด ดิยัลโล่ ที่ทำให้พวกเขาชนะได้

"วันนี้ เราพิสูจน์แล้วว่าเราสามารถส่งใครลงสนามก็ได้และเอาชนะ" อาโรมริม กล่าวในภายหลัง

แรชฟอร์ด เองก็คงมองโลกตามความเป็นจริง เขาคงรู้ดีว่าอนาคตของเขากำลังรออยู่ข้างหน้า เป็นเรื่องยุติธรรมที่จะบอกว่าตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา หรือแม้กระทั่งฤดูกาล 2022-23 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2021 เขาทำได้เพียง 2 ประตู จาก 28 เกมหลังสุดในช่วงที่ ราล์ฟ รังนิก คุมทีม เขาทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานที่เขาสามารถจะทำได้

เขาถูกวิจารณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงความตั้งใจในการทำงาน และบางคนก็วิจารณ์พฤติกรรมนอกสนามของเขา ซึ่งรวมถึงการเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาในช่วงเบรกทีมชาติเดือนพฤศจิกายน

มีการโต้แย้งว่า แรชฟอร์ด ถูกเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม แต่ด้านนี้ของชีวิจเขาจะไม่เปลี่ยนแปลง เขาต้องทำผลงานให้ดีที่สุด และมันก็บ่อยครั้งมากเกินไปที่เขาทำไม่ได้


แล้วมีใครล่ะที่สามารถซื้อ แรชฟอร์ด ได้?

แรชฟอร์ด เป็นหนึ่งในคนที่มีรายได้มากที่สุดของ ยูไนเต็ด โดยได้รับค่าจ้างเบื้องต้นมากกว่า 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ มีเพียงไม่กี่ทีมเท่านั้นที่สามารถจ่ายเงินขนาดนี้ได้ และด้วยเหตุผลหลายประการ บางทีมจึงไม่ได้อยู่ในตลาด

ในสเปน ปัญหาทางด้านการเงินของ บาร์เซโลน่า เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ส่วน เรอัล มาดริด ก็กำลังดิ้นรนเพื่อหาความลงตัวระหว่าง คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้, วินิซิอุส จูเนียร์ และ จู๊ด เบลลิงแฮม

แอตเลติโก มาดริด เพิ่งจ่ายเงินจำนวนมหาศาลซื้อ ฮูเลียน อัลวาเรซ มาจาก แมนฯ ซิตี้ เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว

ในบรรดาสโมสรชั้นนำของอังกฤษ แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ดูเหมือนจะเป็นทีมที่เอื้อมถึง อาร์เซน่อล ต้องการกองหน้าตัวเป้า และ แรชฟอร์ด ไม่ได้ชอบเล่นตำแหน่งนั้น เชลซี ดูเหมือนจะใช้เงินไปมากพอสมควรแล้ว ขณะที่ สเปอร์ส ก็ฟอร์มไม่สม่ำเสมอ แต่พวกเขาก็มี ซน ฮึง-มิน กัปตันทีมที่เล่นทางกราบซ้ายอยู่แล้ว

เปแอสเช มักถูกกล่าวถึงว่าอาจเป็นเป้าหมายในหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา แต่ยักษ์ใหญ่ฝรั่งเศสก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องนี้

ก่อนหน้านี้ แมนฯ ยูไนเต็ด เคยตกเป็นข่าวกับ ร็องดาล โกโล มูอานี่ ทว่าแม้แต่การแลกเปลี่ยนตัวก็ยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ เนื่องจาก ราสมุส ฮอยลุนด์ ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกแรกของ อาโมริม ในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า

ซาอุดี โปรลีก ของซาอุดีอาระเบีย อาจสร้างกระแสได้อย่างมากด้วยการเซ็นสัญญากับนักเตะซึ่งเป็นที่รู้จักจากพรีเมียร์ลีกที่อายุเพียง 27 ปี อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า แรชฟอร์ด จะไม่ได้ปรารถนาแผนดังกล่าว

การยืมตัวแบบรับผิดชอบค่าเหนื่อยดูเหมือนจะเป็นไปได้ แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงสถานการณ์กฎการเงินของพวกเขา รวมถึงความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติให้อยู่ในกฎ ดังนั้นการจ่ายเงินเพื่อให้ผู้เล่นที่มีรายได้สูงไปเล่นกับทีมอื่นจึงอาจเป็นผลเสียมากกว่า


แล้ว แรชฟอร์ด จะอยู่ที่ ยูไนเต็ด ต่อไปได้ไหม?

ใครก็ตามที่อายุมากพอที่จะจำเรื่องราวของ เวย์น รูนี่ย์ เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2010 ได้ตอนที่เขาขอย้ายทีม เขาโดย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โจมตีต่อหน้าสาธารณะ และก็ต่อสัญญาฉบับใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ และนั่นบ่งบอกได้ว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ที่ ยูไนเต็ด

มันมีสามประเด็นหลักๆ

สิ่งแรก แรชฟอร์ด จะตอบสนองความต้องการของ อาโมริม ได้หรือไม่? จริงๆ แล้วนั่นควรจะเป็นเรื่องง่าย แต่แน่นอนว่าความพยายามนั้นไม่ควรมีข้อต่อรอง เรากำลังพูดถึงความพยายามทื่ อาโมริม เรียกร้อง แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนในโลกโซเชียลคิด

ประเด็นที่สอง เขาสามารถปรับตัวให้เข้ากับระบบได้ไหม? เรื่องนี้ค่อนจ้างซับซ้อนกว่า แรชฟอร์ด ชอบเล่นริมเส้นและตัดเข้าใน แต่ระบบของ อาโมริม ไม่มีตำแหน่งสำหรับสิ่งนั้น

โค้ชได้กล่าวไว้แล้วว่า แรชฟอร์ด ไม่เหมาะกับบทบาทหมายเลข 9 แบบดั้งเดิม ซึ่งจะทำให้เหลือผู้เล่นแค่ตำแหน่งวิงแบ็ก (ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้) หรือกองหน้าตัวใน

ตำแหน่งหลังคงจะต้องทำงานอย่างหนัก แต่ถ้า ราสมุส ฮอยลุนด์ สามารถเก็บบอลได้ แล้วใช้ แรชฟอร์ด วิ่งทะลุขึ้นมาก็อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม

หาก อาโมริม ต้องการให้ทีมเล่นแบบครองบอล เขาก็จะไม่มีค่ามากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขาเคลื่อนไปยังพื้นที่ที่สูงมากขึ้น

ทางเลือกที่สามคือยอมรับที่จะถูกใช้งานในฐานะตัวสำรองที่จะสามารถสร้างผลกระทบได้ ในขณะที่ แรชฟอร์ด กำลังเข้าใกล้จุดสูงสุดของอาชีพ การตัดสินใจเลือกเส้นทางนี้จึงเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด