แก้ที่ตัวเองก่อน
ในแง่ความสนุกเร้าใจในแบบดาร์บี้แมตช์ เกมระหว่าง 2 คู่ปรับร่วมกรุงลอนดอนตอนเหนือไม่เคยทำให้แฟนบอลผิดหวัง
แทบไม่เคยมีครั้งไหนที่จบแบบไร้สกอร์หรือน่าเบื่อ ทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างสมศักดิ์ศรีและไม่มีใครยอมใคร
เรียกได้ว่าเป็นเกมที่มีครบทุกรสชาติทั้งการเปิดหน้าแลกใส่กัน การทำประตู การฟาวล์หนักๆ จนถึงขั้นใบเหลือง-ใบแดง และจุดโทษ รวมถึงจังหวะปัญหาหลายอย่างที่เกมจบแต่ยังต้องมาถกกันต่อ
นอร์ธลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ที่เวมบลีย์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเต็มไปด้วยจังหวะปัญหามากมาย
2 ประตูที่เกิดขึ้นก็มาจากความผิดพลาดของอีกฝ่าย และโอกาสที่จะเกิดประตูที่ 3 ก็มีนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็พลาดไปหมด
อาร์เซน่อลฉวยโอกาสได้ประตูนำก่อนจากความผิดพลาดของสเปอร์สเองที่ แฮร์รี เคน เสียบอลในเขตโทษอาร์เซน่อลจึงโดน กรานิต ชาคา สาดบอลยาวมาถึงกลางสนาม
ดาวินซอน ซานเชซ ชิงจังหวะเข้าโหม่งก่อน แต่กลายเป็นโหม่งพลาดตั้งให้ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ได้กระแทกขึ้นหน้าทันที อารอน แรมซี่ย์ จึงหลุดเดี่ยวตั้งแต่แดนตัวเองก่อนโยกหนี อูโก้ โยริส แล้วส่งบอลตุงตาข่าย
ในเกมที่ทั้งสองทีมต่างต้องการเริ่มต้นด้วยความรัดกุม ไม่ประมาท สเปอร์สกลับพลาดง่ายๆ และเสียหายถึงขั้นเสียประตู
แต่เกมจะพลิกไปอีกทางหรือไม่หากก่อนหน้านั้น 3 นาที สเปอร์สได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษที่ แฮร์รี่ เคน โดน กรานิต ชาคา จิ้มจากข้างหลังแต่ไม่ได้ฟาวล์ใดๆ
แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ผู้ตัดสินจากแมนเชสเตอร์พลาดในจังหวะนี้ เพราะหากเห็นเหตุการณ์ชัดเจน ไก่เดือยทองจะต้องได้ลุ้นทำประตูจากฟรีคิกระยะวัดใจ และชาคาก็ต้องโดนเหลือง และทำให้การเล่นในช่วงที่เหลือเกือบ 80 นาทีลำบากมากขึ้น
สเปอร์สพยายามเร่งเครื่องเข้าใส่เพื่อตีเสมอให้ได้และเป็นฝ่ายคอนโทรลบอลเข้าหน้าเขตโทษปืนใหญ่ได้ แต่จังหวะเข้าทำก็ไม่ลงล็อก
แนวรับอาร์เซน่อลก็ทำหน้าที่ได้ดี แทบไม่เปิดโอกาสให้สเปอร์สมากนัก ถือว่าเล่นได้มั่นคงอย่างมากหากเทียบกับนัดเยือนในหลายนัดฤดูกาลนี้
หากไม่นับลูกโหม่งของเคนที่ถูกเป่าล้ำหน้า สเปอร์สต้องรอจนถึงท้ายครึ่งแรกถึงได้ส่งบอลตรงกรอบ ทว่าลูกยิงโล่งๆ ของ คริสเตียน เอริคเซ่น และลูกซ้ำของ มุสซ่า ซิสโซโก้ ก็ยังมีคนที่ทำได้ดีกว่าคือ แบร์นด์ เลโน่
ต้องชมในเรื่องการยืนตำแหน่งและปฏิกิริยาของ เลโน่ เลยว่าสุดยอด อาร์เซน่อลรักษาสกอร์นำในครึ่งแรกได้ก็เพราะนายทวารทีมชาติเยอรมันคนนี้
ครึ่งหลัง ความเข้มข้นที่มาพร้อมความกดดันเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เราจึงได้เห็นความผิดพลาดมากมายที่ส่งผลต่อรูปเกมและผลการแข่งขัน
เล็กซองด์ ลากาแซตต์ มีโอกาสบวกประตูให้อาร์เซน่อลได้เพิ่มเมื่อได้วางหน้าเท้าแปเน้นๆ ระยะเพียงไม่กี่หลา แต่ว่าบิดเท้ามากไปจนบอลหลุดออกเสาไกล
เป็นการทิ้งโอกาสทองไปอีกครั้งเหมือนต้นครึ่งแรก และพอพลาดครั้งที่ 2 ไม่กี่อึดใจก็ถูกเปลี่ยนตัวออกให้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ลงแทน
อาร์เซน่อลมีโอกาสนำเป็น 2-0 แต่ทำไม่ได้ แถมยังต้องมาเสียจุดโทษแบบไม่น่าเสียอีกต่างหาก
เคน ล้ำหน้าก่อนโดนฟาวล์
แฮร์รี่ เคน ถูก ชโคดราน มุสตาฟี่ ทำฟาวล์จริง เป็นจุดโทษแน่นอน แต่จังหวะนี้ก็มีการ ''ล้ำหน้า'' ไปก่อนแล้ว และไม่ใช่เคนคนเดียวเสียด้วย เพราะยังมีผู้เล่นสเปอร์สอีก 4 คนที่ออกตัวก่อนกองหลังอาร์เซน่อล
แอนโธนี่ เทย์เลอร์ รวมถึงไลน์แมนทำหน้าที่พลาดอีกครั้ง และมีส่วนบิดให้รูปเกมพลิกไปอีกทาง เพราะโมเมนตัมเหวี่ยงเข้าทางสเปอร์ส
มีการโต้แย้งว่า จังหวะนี้ไม่ล้ำหน้าโดยอ้างอิงกฎที่ว่า "หากนักเตะในตำแหน่งล้ำหน้าขยับเข้าหาบอลโดยมีเจตนาเล่น และถูกทำฟาวล์ก่อนเล่น หรือพยายามเล่นบอล หรือเข้าแย่งบอลกับผู้เล่นฝั่งตรงข้ามแล้ว การทำฟาวล์จะมีผลตามที่เกิดขึ้นก่อนจะล้ำหน้า"
แต่ข้อโต้แย้งด้วยการอ้างกฎนี้ก็ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเพราะการ "ล้ำหน้า" เกิดขึ้นก่อน "การฟาวล์" ดังนั้นจึงสำคัญมากกว่าและเป็นจุดที่ผู้ตัดสินต้องพิจารณาก่อน...เว้นเสียแต่ว่าทำหน้าที่พลาดเอง
ผู้เล่นอาร์เซน่อลหัวเสียอย่างมากกับจังหวะนี้ แต่ก็คอนโทรลตัวเองไม่ให้หลุดจากเกมไปมาก ยังพยายามต่อบอลเพื่อมองหาประตูขึ้นนำอีกครั้ง
หากเป็นสกอร์ 1-1 ในเกมอื่นที่ต่างฝ่ายต่างพลาดแบบนี้ ก็เชื่อว่าอาจเน้นประคองตัวไปแล้ว แต่ความที่เกมนี้คือดาร์บี้แมตช์ ทั้งอาร์เซน่อลและสเปอร์สจึงมองหาทุกโอกาสเพื่อเป็นผู้ชนะให้ได้
เป็นอาร์เซน่อลที่ได้โอกาสนาทีสุดท้ายที่บีบหัวใจ แถมยังเป็นโอกาสทองฝังเพชรจากจุดโทษที่มีเพียงผู้รักษาประตูขวางหน้าในระยะ 12 หลา
จุดโทษลูกนี้ ''ง่ายไป'' เพราะ ดาวินซอน ซานเชซ แทบไม่ได้ทำฟาวล์ชัดเจนใส่โอบาเมย็อง
มันอาจเป็นการพลาดอีกครั้งของผู้ตัดสิน หรือตั้งใจมอบจุดโทษคืนให้อาร์เซน่อลบ้างเพื่อชดเชยในบางอย่างก็ไม่ทราบได้ แต่เมื่ออาร์เซน่อลได้สิทธิ์นั้นแล้วก็ต้องคว้าเอาไว้ก่อน
น่าเสียดายที่โอบาเมย็องดันยิงได้ไม่ดีนัก ขาดทั้งน้ำหนักและทิศทางทำให้ อูโก้ โยริส ป้องกันไว้ได้ แถมจังหวะซ้ำดาบสองที่เพื่อนร่วมทีมตวัดมาให้ก็ติดบล็อกแฟร์ต็องเก้นเด้งข้ามคานไปอีก
แดนนี่ โรส รอดตัวในจังหวะนี้
จังหวะตามไปบล็อกของ แฟร์ต็องเก้น ก็เป็นอีกปัญหาเพราะจังหวะยิงของโอบาเมย็องนั้น แฟร์ต็องเก้นก็พรวดเข้าเขตโทษไปหลายก้าวแล้ว หาก แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ทันเกมก็ต้องให้ยิงใหม่
ปืนใหญ่เสียหายหลายจังหวะกับการทำหน้าที่ผิดพลาดของผู้ตัดสิน แถม ลูคัส ตอร์เรร่า ยังมาโดนใบแดงจากการเข้าตัดบอลแล้วปลายสตั๊ดลอยไปจิ้มหน้าแข้ง แดนนี่ โรส
จังหวะนี้เป็นใบแดงได้ แต่จังหวะก่อนหน้าที่โรสยันเต็มเท้าใส่หน้าอกของ แบร์นด์ เลโน่ ก็ต้องแดงด้วย เพราะแทบไม่ต่างกันหากผู้ตัดสินมองว่ายกเท้าสูง เล่นรุนแรง แถมจังหวะของโรสไม่โดนบอลอีกต่างหาก
ท้ายที่สุด ทั้งสองทีมจึงต้องแบ่งแต้มกันไปโดยที่อาร์เซน่อลรู้สึกเสียดายมากกว่าเพราะชัยชนะที่หลุดลอยมาจากความผิดพลาดของผู้ตัดสินและตัวเองด้วย
แต่หากจะมีอะไรที่อาร์เซน่อลได้เรียนรู้ในเกมนี้ก็ต้องบอกว่า พวกเขาต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกเพราะความผิดพลาดของคนอื่นคงเป็นสิ่งที่แก้ไขได้ยาก
โอบาเมย็อง ได้ประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงว่าการต้องรับหน้าที่ยิงจุดโทษชี้ขาดในนาทีสุดท้ายแบบนี้มันกดดันมากเพียงใด
มุสตาฟี่ เองก็ไม่ควรไปทำฟาวล์คู่แข่งในเขตโทษแบบนั้น โอกาสเสียจุดโทษสูงลิบอยู่แล้วเพราะเข้าข้างหลัง
นัดนี้มีโอกาสหลายต่อหลายครั้งที่จะนำห่างสเปอร์สได้มากกว่า 1 ประตูแต่ก็พลาดและไม่เด็ดขาดไปเอง
สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่อาร์เซน่อลต้องนำไปปรับปรุงและลบข้อผิดพลาดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ลดข้อผิดพลาดตัวเอง และเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นให้มากขึ้น
หากทำได้ก็ไม่มีอะไรมาขัดขวางการก้าวเดินไปถึงเป้าหมายได้อยู่แล้ว
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT