จากดินสู่ดาวของ กาเบรียล เชซุส (ตอน 1)
หลายคนพาตัวเองหลุดพ้นจากความแร้นแค้นในวัยเด็กด้วยสองเท้า และลูกฟุตบอลที่ติดหนึบตัวราวกับเป็นอวัยวะอีกชิ้นของร่างกาย
กาเบรียล เชซุส หัวหอกความหวังของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ไม่ต่างกัน
ดาวยิงวัย 20 ปีเคยลำบากมาก่อน คุณแม่ของเขาต้องรับจ๊อบทำงาน 3 ที่ในเวลาเดียวกันเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว แต่ด้วยความมุ่งมั่นของลูกชายก็ทำให้ครอบครัวลืมตาอ้าปากได้สำเร็จ และตอนนี้ เชซุส ก็เป็นอีกหนึ่งแข้งบราซิเลี่ยนที่กำลังโลดแล่นอยู่ในเวทีพรีเมียร์ลีก
เรามีความทรงจำมากมายกับนักเตะบราซิลในลีกสูงสุดของอังกฤษ ทั้งประสบความสำเร็จเป็นที่จดจำ และล้มเหลวจนแทบไม่อยากเอ่ยชื่อ
ยิ่งเป็นการย้ายตรงข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกยิ่งต้องพิสูจน์ตัวเองในลีกที่ได้ชื่อว่าหินโหดและใช้พละกำลังมากที่สุดของโลก
แม้ตอนนี้ยังไม่ครบหนึ่งปีเต็มนับตั้งแต่ข้ามมาเหนียบแผ่นดินยุโรป แต่ก็คงพอจะพูดได้ว่า กาเบรียล เชซุส "สอบผ่าน" แล้ว และเป็นใบเบิกทางให้กับเพื่อนร่วมชาติคนอื่นๆ
"ถ้าไม่มีการย้ายของ กาเบรียล ไปที่อังกฤษ เราคงไม่ได้มาที่นี้ในเวลานี้"
เรนาโต้ เบลาสโก้ เอเยนต์ของ ริชาร์ลิซอน ปีกดาวรุ่งตัวเก่งที่กำลังโชว์ฟอร์มร้อนแรงกับวัตฟอร์ด กล่าว
"เขา (กาเบรียล) ทำให้ทีมในพรีเมียร์ลีกเห็นว่าสามารถซื้อนักเตะจากบราซิลโดยตรงได้และประสบความสำเร็จ"
เชซุส ช่วยให้ผู้มาที่หลังอย่าง ริชาร์ลิซอน ยกระดับการค้าแข้งขึ้นอีกขั้น แต่ย้อนไปยังจุดเริ่มต้นของทั้งคู่ต่างมีเส้นทางคล้ายคลึงกัน และอันที่จริงก็คงเหมือนเด็กบราซิลทั่วไปที่ปากกัดตีนถีบมาตั้งแต่เด็ก
สนามดินในพื้นที่คุกทหารคือจุดเริ่มต้นของ กาเบรียล เชซุส
ในช่วงวัยรุ่นที่บ้านเกิดใน ยาร์ดิม เพรี (Jardim Peri) จุดเริ่มต้นอยู่ที่สนามฟุตบอลของ "คุกทหาร" ทางตอนเหนือของเซา เปาโล
สนามดินเห่ยๆ แห่งนี้เป็นที่ฝึกซ้อมของ เปกูเอนนินอส โด เมโย อัมเบียนเต้ (Pequeninos do Meio Ambiente) ทีมระดับเยาวชนที่ไม่สามารถหาสนามอื่นที่ดีกว่านี้ได้อีกแล้ว
มีโครงการสานฝันเพื่อสังคมที่เรียกว่า "อันฮานกูเอร่า" ซึ่งเปิดโอกาสให้เยาวชนอายุระหว่าง 13-16 ปี ได้มีโอกาสร่วมแข่งขันในลีกสมัครเล่น "วาร์เซีย" และดาวรุ่งคนใดโชว์ฟอร์มเข้าตา และความสามารถถึงก็จะได้ไปลุยเวทีที่มาตรฐานกว่าสนามดินของคุกทหารแห่งนี้
"อันฮานกูเอร่า เป็นสโมสรฟุตบอลที่ก่อตั้งในปี 1928 และเต็มไปด้วยธรรมเนียมปฏิบัติมากมาย" ฟาบิโอ การัน ผู้อำนวยการสโมสรกล่าว
"ด้วยเงินส่วนตัวของผมและคุณพ่อ เราจัดหามาให้ฟรีหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์การเล่น สนามคุณภาพ ชุดแข่งขัน และสตาฟฟ์โค้ช"
"เพื่อให้ได้นักเตะใหม่ที่ต้องการ ผมนำใบปลิวแจกไปตามโรงเรียน และฝากแผงหนังสือแถบพื้นที่รอบนอกของเซา เปาโล ช่วยแจกโดยเฉพาะโซนทางเหนือที่ผมมา"
"เรารู้ดีว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะกลายเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้ แต่เราจะให้พวกเขาได้ฝึกซ้อมเพราะหากพวกเขาออกจากทีมไปแล้วก็คงเตร็ดเตร่อยู่ตามท้องถนนทั้งวันซึ่งอาจเกิดอันตรายได้"
"กาเบรียล คือดาวเด่นของเราในทันทีที่เขาเข้ามา เราก็รู้เลยว่าเราได้ของดีแล้ว"
บัตรสมาชิกของ กาเบรียล เชซุส ที่เปกูเอนนินอส โด เมโย อัมเบียนเต้
เดิมที กาเบรียล มีจุดบกพร่องเฉกเช่นนักเตะดาวรุ่งทั่วไปที่เล่นฟุตบอลสนุกกับเพื่อนมาตลอดชีวิต และยังไม่ผ่านการขัดเกลาอย่างถูกวิธี แต่ความตั้งใจที่จะปรับปรุงพัฒนาตัวเองทำให้ใครก็ตามที่พบเจอต่างประทับใจ
"ตอนนี้ผมมีนักเตะที่มีความสามารถไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่า เชซุส แต่ กาเบรียล มีความสุขในการได้ลงซ้อมเสมอ และขยันมามากกว่าคนอื่นตลอด"
"พ่อของผมเป็นโค้ชในโครงการนี้หนึ่งปี และเน้นฝึกเขาในการโหม่งบอลและใช้เท้าซ้ายซึ่งยังไม่ดีมากนัก"
"เขาตั้งใจฟังเสมอในเวลาที่เราให้คำแนะนำทั้งในและนอกสนาม เชซุส ไม่มีข้อตำหนิเลยในเรื่องความมุ่งมั่นและตั้งใจในการซ้อม นั่นทำให้เขาก้าวไปถึงระดับสูงสุด"
"ผมเหนื่อยเลยในการฝึกซ้อม กาเบรียล! เพราะมีเพียงเขาและ ว้ากเนอร์ ผู้รักษาประตูที่เล่นให้กับชุดยู-20 ของพัลเมรัสตอนนี้ ลากยาวในการซ้อมจนถึงดึกดึ่นซึ่งหาได้น้อยมาก แต่ดูจุดที่พวกเขาทำได้ในตอนนี้สิ"
การัน เชื่อว่าพื้นเพในอดีตของ กาเบรียล มีช่วยผลักดันในเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลอย่างมาก คุณแม่ของเขามาอยู่ด้วยกันที่แมนเชสเตอร์ เธอเป็นคนที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กหนุ่มวัยเพียง 20 ปี และรอยสัก 2 แห่งบนตัวของหัวหอกแมนฯ ซิตี้ ก็อุทิศให้กับเธอ
กาเบรียล เชซุส มีคุณแม่เคียงข้างเสมอตอนบาดเจ็บปลายฤดูกาลก่อน
"ครอบครัวของ กาเบรียล สุดยอดมาก เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและช่วยเหลือกันเสมอ โดน่า เวร่า (คุณแม่) สนับสนุนลูกชายทั้งสี่แทบจะตัวคนเดียว เธอต้องทำงานถึง 3 ที่เพื่อหาเงินให้มากพอสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ"
ด้วยแรงสนับสนุนดีเยี่ยม รวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือที่พร้อมในการฝึกซ้อม ทุกอย่างรุดหน้ารวดเร็วสำหรับ เชซุส สโมสรยักษ์ใหญ่เริ่มรุกคืบแสดงความสนใจในตัวเขา ก่อนที่ไม่นานจะเป็น พัลเมรัส มือไวฉกดาวรุ่งวัย 15 ปีที่ทุกคนต่างพูดถึงไปครอง
"เมื่อเขามาอยู่กับเรา เราให้เขาเล่นในเกมอุ่นเครื่องกับทีมชุดอายุไม่เกิน 15 ปี ในเดือนสิงหาคม ปี 2012 เขาโดดเด่นเหนือกว่าคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด" บรูโน่ เปตรี โค้ชเยาวชนของพัลเมรัสในตอนนั้นกล่าว
"ด้วยผลงานที่ประทับใจผู้อำนวยการสโมสร เขาก็ได้ร่วมทีมเราในที่สุด ตอนนั้นเขายังเล่นในลีกไม่ได้เพราะอายุไม่ถึง จึงต้องฝึกซ้อมร่วมทีมชุดอายุไม่เกิน 14 ปี"
"เขาเคยเล่นลีกวาร์เซีย ดังนั้นจึงไม่เคยมีประสบการณ์ในการเล่นทีมใหญ่ในช่วงแรกๆ เขามีความสุขเรียบง่ายกับฟุตบอล"
"ในปี 2014 เขาเหลือเชื่อมากในลีกเปาลิสต้า (ชิงแชมป์รัฐ อายุไม่เกิน 17 ปี) หลายทีมใหญ่สนใจเขามากขึ้นนับจากนั้น แต่ ฟาบิโอ การัน ก็โน้มน้าวให้เขาอยู่ และในปีนั้นเขาสร้างสถิติขึ้นมาใหม่"
โรนัลโด้ (กลาง) แบบฉบับดาวยิงสไตล์บราซิเลียน
ด้วยผลงาน 37 ประตูจาก 28 นัดในปีแรกอันน่าประทับใจ สะท้อนชัดเจนว่า กาเบรียล เชซุส ไม่ใช่แข้งพรสวรรค์ทั่วไป แต่คือเพชรเม็ดงามดวงใหม่
ภาพของ โรนัลโด้ (โล้นทองคำ) ที่ใช้สปีดและทักษะเฉพาะตัวฉีกแนวรับคู่แข่งขาดกระจุยยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของแฟนบอลบราซิลราวกับเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน และตอนนี้พวกเขาก็มีความหวังกับเจ้าของเสื้อหมายเลข 9 คนใหม่อย่าง เชซุส อีกครั้ง
(รอติดตามตอน 2 ในวันศุกร์นี้)
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT