ฟุตบอลโลก 1970 : มนต์เพลงแซมบ้า
อย่างไรก็ดี หลายประเทศตัวแทนโดยเฉพาะจากทวีปยุโรป ไม่ค่อยแฮปปี้กับการเลือกตัวเจ้าภาพหนนี้เท่าใดนักเนื่องจากประเทศเม็กซิโกตั้งอยู่บนที่ราบสูงซึ่งอาจจะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเดินทาง และการเหนื่อยเร็วเกินไปของบรรดานักเตะ
โชคดีที่หลายทีมที่เข้าร่วมศึกเวิลด์ คัพ รอบสุดท้ายครั้งนี้ ต่างใช้เวลาไม่นานก็สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศที่เบาบางและความร้อนระอุซึ่งสูงถึง 100 ฟาเรนไฮต์ กับอีก 37 องศาเซลเซียส ระหว่างการแข่งขัน
ในส่วนของรูปแบบการแข่งขันก็ยังคงเหมือนกับศึกฟุตบอลโลกปี 1966 เมื่อ 4 ปีก่อนที่อังกฤษทุกอย่าง แต่ได้มีการเปลี่ยนมาใช้ตัวผู้เล่นข้างละ 13 คน หลังจากมีการนำตัวสำรองมาใช้เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ การเสี่ยงโยนเหรียญหัวก้อยเพื่อหาผู้ชนะ ถ้าหากทั้งสองทีมยังเสมอกันหลังจากต่อเวลาพิเศษทั้งในรอบก่อนรองชนะเลิศ และรอบรองชนะเลิศแต่โชคดีที่วิธีการนั้นไม่ได้ถูกนำมาใช้แต่อย่างใด
ฟุตบอลโลกบนดินแดน "จังโก้" หนนี้ได้รับการยกย่องจากแฟนลูกหนังทั่วโลกว่าเป็นทัวร์นาเมนต์เวิลด์ คัพ ที่ดีที่สุดตลอดกาลเลยทีเดียว เพราะทุกทีมเล่นกันอย่างแฟร์เพลย์ แถมไม่มีผู้เล่นคนใดโดนใบแดงไล่ออกจากสนามอีกด้วย
เปเล่ แลกเสื้อกับ บ๊อบบี้ มัวร์ กัปตันทีมชาติอังกฤษหลังจบเกมรอบแรก
นอกจากนี้การเล่นฟูตบอลสไตล์บุกแหลกฆ่ามันได้หวนคืนมาอีกครั้งจากผลงานการสร้างสรรค์ของยอดทีมระดับโลกอย่างบราซิล และเยอรมันตะวันตก
เกมนัดเปิดสนามเป็นการพบกันระหว่าง เม็กซิโก กับ สหภาพโซเวียต ทั้งสองทีมต้องเล่นกันภายใต้สภาพอากาศที่ร้อนเกินบรรยายในช่วงกลางวัน จบเกมทั้งสองทีมเสมอกันไปแบบโนสกอร์ 0-0 แต่เกมนั้นยังคงได้รับการกล่าวขวัญมาจนถึงทุกวันนี้เนื่องจากเจ้าภาพจัดพิธีเปิดได้งดงามตระการตามาก มีการปล่อยบอลลูนมากถึง 50,000 ลูก ว่ากันว่านี่คือพิธีเปิดการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่และวิจิตรตระการตาหนแรกในศึกฟุตบอลโลก
ทีมชาติบราซิลมีทีมที่ยอดเยี่ยมและลงตัวสุดๆ พวกเขาได้ "ไข่มุกดำ" เปเล่ กลับมาคืนฟอร์มเก่งอีกครั้งไปไม่ถึงฝั่งฝันเมื่อ 4 ปีก่อนที่อังกฤษ
ครั้งนี้ทัพ "แซมบ้า" ทำผลงานได้อย่างน่ากลัวเมื่อปราบแชมป์เก่าอังกฤษลงได้ในเกมสุดมันที่ กอร์ดอน แบ๊งค์ส โชว์ซูเปอร์เซฟปัดลูกโหม่งอันสุดสวยของ เปเล่ เอาไว้ได้
เปเล่ มีส่วนร่วมกับแชมป์โลกทั้ง 3 สมัยของทีมชาติบราซิล
นอกจาก เปเล่ แล้ว เปรูภายใต้การนำของ คูบิลลัส ก็เป็นอีกทีมหนึ่งจากโซนอเมริกาใต้ที่ทำผลงานได้ดีเมื่อพลิกสถานการณ์จากการตามหลังบัลแกเรีย 0-2 กลับมาชนะ 3-2 ได้ในที่สุด
ขณะที่เกมนัดแรกของรอบก่อนรองชนะเลิศเป็นนัดรีเพลย์ของรอบชิงชนะเลิศเมื่อ 4 ปีก่อนระหว่างอังกฤษกับเยอรมันตะวันตก ทั้งสองทีมก็ยังกินกันไม่ลงในช่วงเวลาปกติ จนต้องไปเตะกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษอีกครั้ง
คราวนี้ แกร์ด มุลเลอร์ ดาวยิงตัวเก่งของเยอรมันตะวันตกเป็นฮีโร่สังหารประตูชัยในช่วงท้ายของการต่อเวลาพิเศษพร้อมกับพาทีมถอนแค้นอังกฤษได้สำเร็จหลังจากเคยแพ้มาแบบคาใจที่เวมบลีย์
"อัซซูรี่" อิตาลี หนึ่งในตัวเต็งแชมป์ทำผลได้ได้ไม่น่าประทับใจนักในรอบแรก แต่หลัวจากที่พวกเขาถล่มเจ้าภาพเม็กซิโกได้อย่างไม่เหลือซาก 4-1 แฟนบอลส่วนใหญ่ก็เริ่มหันมาจับตามองและเชื่อว่าอิตาลี มีดีพอที่จะคว้าแชมป์โลกสมัย 3 ได้
เกมรอบรองชนะเลิศระหว่างอิตาลีกับเยอรมันตะวันตก ถือเป็นแมตช์สุดคลาสสิกนัดหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกเมื่อทัพอัซซูรี่หักปีกอินทรีได้ 4-3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ขณะที่บราซิลก็เร่งเครื่องกลับมาพลิกชนะอุรุกวัย 3-1 หลังเสียประตูไปก่อน
รอบชิงชนะเลิศที่ "อัซเตก้า สเตเดี้ยม" ท่ามกลางผู้ชมมากกว่าหนึ่งแสนคนถือเป็นจุดไคลแม็กซ์อย่างแท้จริงเมื่อทุกคนได้เห็นฟอร์มอันฉกาจฉกรรจ์ของทีมชาติบราซิลโดยเฉพาะ เปเล่ ที่เล่นได้อย่างไร้ที่ติด้วย 1 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์ พาทีมถล่ม อิตาลี ราบคาบ 4-1
อันดับ 3 ตกเป็นของเยอรมันตะวันตกที่ได้ โวล์ฟกัง โดอเวอร์รัธ ซัดประตูโทนดับอุรุกวัย 1-0 แต่ดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์คือ "ไอ้ลูกระเบิด" แกร็ด มุลเลอร์ ที่กดไปถึง 10 ประตู
บราซิล 1970 กลายเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดตลอดกาลของฟุตบอลโลก
แฟกต์ไฟล์ฟุตบอลโลก
เจ้าภาพ : เม็กซิโก
สนาม : 5 สนาม
จำนวนทีม : 16 ทีม
จำนวนนัด : 32 นัด
วันแข่งขัน : 31 พฤษภาคม - 21 มิถุนายน 1970
จำนวนประตู : 95 ประตู (2.97 ประตูต่อนัด)
ผู้ชมทั้งหมด : 1,604,065 คน (50,127 คนต่อนัด)
ทีมแชมป์ : บราซิล (สมัย 3)
รองแชมป์ : อิตาลี
อันดับ 3 : เยอรมันตะวันตก
อันดับ 4 : อุรุกวัย
รางวัลรองเท้าทองคำ : แกร์ด มุลเลอร์ (เยอรมันตะวันตก) 10 ประตู
สรุปดาวซัลโว
10 ประตู : แกร์ด มุลเลอร์ (เยอรมันตะวันตก)
7 ประตู : แจร์ซินโญ่ (บราซิล)
5 ประตู : โดฟิลิโอ คูบิลลัส (เปรู)
4 ประตู : เปเล่ (บราซิล), อนาโคลี บีโชเว็ตส์ (สหภาพโซเวียต)
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT