:::     :::

ซาอูล ญีเกซ กับชีวิตในลอนดอน

วันศุกร์ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2565 คอลัมน์ สิงห์สนามจริง โดย ยักษ์เดนส์
1,588
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ผ่านไปเกือบ 2 ใน 3 ของซีซั่นแล้วสำหรับ ซาอูล ญีเกซ กับการย้ายมาค้าแข้งในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ด้วยสัญญายืมตัว

ในภาพรวมแล้วต้องบอกว่าน่าผิดหวัง เพราะจนถึงตอนนี้เจ้าตัวยังไม่เคยลงเล่นครบ 90 นาทีในพรีเมียร์ลีกให้กับ "สิงห์บลูส์" เลย เช่นเดียวกับในเวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

มีแค่ในบอลถ้วยอย่าง เอฟเอ คัพ และใน คาราบาว คัพที่ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง แต่กระทั้งรอบตัดเชือกนัดที่สองกับ สเปอร์ส หลุดไปเป็นสำรอง 


ในรอบชิงชนะกับ ลิเวอร์พูล ก็ไม่รู้ว่าจะได้ลงเล่นตัวจริงรึเปล่า ก็ต้องวัดใจ โธมัส ทูเคิ่ล แหละ

เดือนนี้ถือเป็นเดือนสำคัญของ เชลซี เลยที่ต้องลงเล่นทั้งการชิงแชมป์สโมสรโลก, ป้องกันแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, มุ่งมั่นเก็บแต้มในบอลลีกและเกมชิงถ้วยคาราบาว คัพ

แน่นอนว่า ซาอูล ญีเกซ เองก็ตั้งเป้าจะช่วยทีมอย่างเต็มที่ จากบทสัมภาษณ์ผ่านทางเว็บไซด์สโมสรนี้

ผ่านไป 5 เดือนกับการเซ็นสัญญายืมตัวจาก แอเลติโก มาดริด และเล่นฟุตบอลในอังกฤษ, คุณมองตัวเองจนถึงตอนนี้ยังบ้าง?


การเริ่มต้นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผม ผมต้องเปลี่ยนแปลกทุกอย่างในชีวิต ออกจากมาดริด, เปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมแม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยอย่างการขับรถอีกฟากของถนน!

ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหมด - สนาม, เพื่อนร่วมทีม, ทุกอย่างในชีวิต ความจริงคือมันไม่ง่ายเลยแต่ผมก็รู้สึกขอบคุณเพื่อนร่วมทีมและสโมสรอย่างมากที่ทำให้ปรับตัวง่ายขึ้น ภาษาอังกฤษของผมพัฒนาขึ้นเรื่อยๆและทุกอย่างก็ง่ายขึ้น

โดยส่วนตัวแล้วผมอยากลงเล่นมากกว่านี้แต่ผมก็เข้าใจว่าทีมได้แชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ดังนั้นมันยากที่จะสอดแทรกสู่ทีม ผมรู้สึกดีและในทุกวัน ผมรู้สึกดีขึ้นและเตรียมพร้อมเสมอเมื่อโค้ชต้องการผม

นี่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกของคุณและครอบครัวนอกประเทศสเปน ดังนั้น 5 เดือนเป็นช่วงเวลาสั้นๆในแง่ของการปรับตัว?


ครอบครัวของผมไม่ได้ทำได้ง่ายง่ายเหมือนผมเพราะผมออกจากบ้านเพื่อไปฝึกและใช้เวลากับเพื่อนร่วมทีมที่คุยด้วย ในขณะที่ครอบครัวของผมไม่ได้เจอใคร พวกเขารู้ว่าเราต้องปรับตัวแต่มันไม่ง่าย การเริ่มต้นใหม่เป็นอะไรที่ยากเสมอแต่สิ่งต่างๆกำลังดีขึ้นทีละเล็กทีละน้อย

สำหรับผม, ผมโฟกัสกับการเล่นฟุตบอลและเข้าใจแนวคิดของโค้ชเหนือสิ่งอื่นใด เกมแรกของผม, ผมรู้สึกสับสนเล็กน้อยเพราะเคยชินกับการทำสิ่งต่างๆที่แตกต่างไปและมันก็ค่อนข้างแปลกสำหรับผม

ผมไม่ได้มีเวลาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมมากนักและเมื่อผมเป็นตัวจริงครั้งแรกที่หลายคนไปเล่นทีมชาติดังนั้นมันเป็นเรื่องยากในการออกสตาร์ทแต่ผมต้องขอบคุณสตาฟฟ์ของ เชลซี ที่คอยดูแลเป็นอย่างดี ผมต้องการแสดงให้กูเล่นเห็นว่าผมสามารถทำได้แล้วตอบแต่ความเชื่อมั่นในตัวเองด้วย

คุณค้นพบว่าอะไรคือความแตกต่างที่สุดระหว่างลา ลีกา ที่เล่นกับ แอต.มาดริด 8 ซีซั่นกับ พรีเมียร์ลีก?


ทั้งสองลีกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ที่นั่นเน้นเรื่องของเทคนิคมากกว่าในขณะที่ที่นี่เน้นเรื่องของกายอย่าภาพและมีความบ้ามากกว่านิดหน่อย  คุณสามารถทำสิ่งต่างๆที่คุณไม่อาจทำได้จริงๆที่ลา ลีกา

ยกตัวอย่างผมคุยกับเพื่อนเมื่อวันก่อนเกี่ยวกับ เอแด็น อาซาร์ ตอนที่เขายังเล่นที่นี่, เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกโดยง่ายดายและจากนั้นก็ย้ายไปเล่นที่สเปนและเจอปัญหาของตัวเองเพราะมันเป็นเกมที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง

ที่นี่เค้าเจอกับการดวลตัวต่อตัวและสถานการณ์สองต่อหนึ่ง แต่ในลา ลีกา ทุกคนรู้ว่าทีมของเค้าดีแค่ไหนและเขาเก่งแค่ไหน ทีมอื่นๆทำให้มันยากขึ้นสำหรับเขา มันตรงกันข้ามแปลว่าผมคิดว่าการปรับตัวในลา ลีกา สู่พรีเมีนร์ลีกจะง่ายกว่าพรีเมียร์ลีกสู่ลา ลีกาอยู่เล็กน้อย

การทำงานกับโค้ชคนใหม่คงจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับคุณหลังจากที่ร่วมงานกับ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ มาเป็นเวลานาน


การยกตัวอย่างที่ดีที่สุดในการออกสตาร์ทคือการมาร์คตัวที่นี่ของแดนกลางซึ่งช่วยให้กองหลังทั้ง 5 คนเคลื่อนไหวมากขึ้นและคล่องตัวมากขึ้น, ที่ แอตเลติโก มันคือการแบ่งเขต ดังนั้นถ้าเพื่อนลงทีมของคุณเลยไปข้างหน้าคุณก็ปิดพื้นที่ด้านหลังและไม่ต้องประกบคู่แข่ง ส่วนตอนที่ไม่ได้ไปปิดพื้นที่ว่างคุณก็โฟกัสที่คู่แข่งแทน

ดังนั้นมันจึงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงและค่อนข้างยากสำหรับผมเพราะผมไม่สามารถทำในสิ่งที่โค้ชต้องการให้ผมทำได้ แต่ผมโชคดีที่ โธมัส พูดอังกฤษอย่างชัดเจน ด้วยสำเนียงที่ผมเข้าใจได้ ผมยังเรียนภาษาอังกฤษอีกด้วยดังนั้นผมสามารถเข้าใจได้ดีขึ้นในสิ่งที่โค้ชต้องการและปรับตัวได้ดีขึ้น

แล้วเรื่องนอกสนามล่ะ? คุณใช้ชีวิตในลอนดอนยังไง?


นี่ก็แตกต่างกันสุดๆ! ที่สเปนผู้คนบอกผมว่าที่นี่มืดแต่เช้าและอากาศไม่ค่อยดีแต่สำหรับผมนั่นไม่ใช่ปัญหาจริงๆเพราะที่มาดริดก็โอกาสหนาวเช่นกัน สิ่งที่ยากที่สุดคือผมไม่ค่อยเห็นดวงอาทิตย์หรือท้องฟ้าแจ่มใสที่นี่เลยในขณะที่ไหนมาดริดอาบหนาวมากแต่ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าและมีแสงแดดมากซึ่งทำให้อบอุ่นอยู่บ้าง

นั่นหมายความว่าคุณสามารถออกไปข้างนอกได้บ้างและผ่อนคลายมากขึ้นเล็กน้อยแต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ซับซ้อนเช่นการจากสถานการณ์โควิด ดังนั้นการออกไปข้างนอกแล้วพบผู้คนเลยยากขึ้น บางครั้งผมก็นั่งรถไฟใต้ดินเพื่อไปที่ เซลฟริดจ์ หรือ อ็อกซ์ฟอร์ด และมันง่ายกว่าผมเล็กน้อยในสเปนเพราะผู้คนให้ความเคารพมากกว่าที่นี่และไม่รบกวนคุณ

ที่สเปนผู้คนจะคลั่งไคล้มากกว่าและพวกเขาก็จะชอบเข้าใกล้คุณ ดังนั้นมันยากที่จะออกไปข้างนอกในลักษณะเดียว ผมไม่ได้เล่นมากนักที่นี่ ผู้คนก็ไม่รู้จักผมเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าผมสามารถนั่งรถไฟใต้ดินได้โดยไม่มีปัญหาอะไรเลยซึ่งผมก็ชอบมันนะ มีสถานีอยู่ข้างบ้านผมดังนั้นผมสามารถเพลิดเพลินกับพี่เมืองนี้โดยไม่ต้องใช้รถหรือไปติดอยู่บนท้องถนน

คุณมีเพื่อนร่วมชาติในห้องแต่งตัวที่ เชลซี และคนอื่นที่พูดภาษาสเปนได้ ซึ่งน่าจะมีประโยชน์อย่างมากในการเริ่มต้นที่จะช่วยให้คุณปรับตัวได้?


ตอนที่ผมตัดสินใจจะเปลี่ยนแปลง ผมมีข้อเสนอจาก 2-3 สโมสรและที่ เชลซี ผมรู้ว่ามีนักเตะสเปนรวมถึงเพื่อนที่ผมรู้จักและเล่นด้วยกันมานาน นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกให้ไปอีกสักแห่งที่ผมไม่รู้จักใครเลย ลองนึกภาพการย้ายไปอยู่ในทีมที่ไม่มีนักเตะสเปนสักคนเลยดูสิ

ทั้งสองตัวเลือกสามารถเป็นเรื่องที่ดี ในขณะเดียวกันมันก็ง่ายกว่าที่จะมีความสุขที่นี่ แต่อีกด้านหนึ่งผมเรียนภาษาอังกฤษได้ไม่เร็วเท่าไหร่นักเพราะผมใช้เวลากับคนสเปนอยู่บ่อยๆและมีคนจำนวนมากในสโมสรที่พูดภาษาสเปนได้ คุณมีทั้งสองด้านที่บางสิ่งสามารถเป็นบวกได้แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีด้านลบอยู่บ้าง

หลังจากการซ้อมเพื่อนชาวสเปนสามารถแปลภาษาให้กับผมได้แต่นั่นก็อาจจะยากเช่นกันถ้าผมไม่เข้าใจในวลีต่างๆ หรือหากผมไม่รู้ว่าควรจะหันไปหรือเปล่า มันใช้เวลายาวนานอยู่บ้างแต่ท้ายที่สุดแล้วมันก็คือเรื่องของการปรับตัว

ผมสนุกกับมันแม้จะไม่ได้เล่นเกมมากเท่าที่ต้องการ คุณต้องเข้าใจตำแหน่งของโค้ชว่าเค้าเชื่อใจนะแต่ของเขาและผมต้องทำงานต่อไปเพื่อที่เขาจะได้ไว้วางใจในตัวผม ทางเดียวที่ผมสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้คือการทำงานหนักต่อไปและเมื่อโอกาสมาถึงก็ต้องคว้ามันให้ได้เพราะในช่วงเดือนแรกผมไม่ได้โอกาสมากนัก ผมโฟกัสกับการทำงาน ผมไม่ยอมแพ้และเมื่อผมมีโอกาสครั้งต่อไปและทำได้ดี ผมก็จะสามารถเรียกร้องอะไรจากโค้ชได้มากขึ้น

เรารู้มาว่าคุณต้องเจอกับความท้าทายทั้งในเรื่องของชีวิตและเส้นทางอาชีพ รวมถึงอาการบาดเจ็บที่เลวร้ายที่ต้องก้าวข้ามผ่านไป ดังนั้นคุณมองความท้าทายในตอนนี้ไว้ยังไงและมีอะไรที่แตกต่างไปจากนี้?


มันแตกต่างออกไป แต่เมื่อคุณออกจากบ้านและเข้าร่วมกับทีมแชมป์ยุโรปชัดเจนว่ามันเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ คุณสามารถใส่ จอร์จินโญ่, เอ็นโกโล่ ก็องเต, มาเตโอ โควาซิช และ รูเบน ลอฟตัส-ชีค เพียงแค่สองคนจากสี่คนในกองกลาง โดยที่สองคนในนั้นได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลบัลลง ดอร์!

ผมรู้ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่และแม้ว่าจะไม่ได้ลงเล่นทุกนาทีความตั้งใจของผมไม่ใช่แค่การเล่นเพียงอย่างเดียวแต่เพื่อเรียนรู้และเติบโต ในท้ายที่สุดการได้เรียนร่วมกับยอดนักเตะช่วยให้คุณเติบโตขึ้นและนั่นทำให้คุณเป็นนักเตะที่ดีขึ้น

การเรียนภาษาอังกฤษจะช่วยผมได้ไปตลอดชีวิต ดังนั้นประสบการณ์นี้ไม่ใช่แค่เรื่องของฟุตบอลเพียงอย่างเดียว ผมปรับตัวและเติบโตขึ้นในฐานะคนๆหนึ่งและในฐานะนักฟุตบอล

คุณอยู่ในครอบครัวฟุตบอลอย่างแท้จริง ทั้งพ่อคุณและพี่ชายทั้งสองคนล้วนเล่นอาชีพม หนึ่งในพี่ชายของคุณ อารอน เคยเล่นกับ เรนเจอร์ส ในสกอตแลนด์แบบยืมตัวด้วย คุณคุยกับเขาเกี่ยวกับการมาอังกฤษและ เชลซี ไหม?


แน่นอน, ตอนที่ผมตัดสินใจในชีวิตไม่ว่าจะเป็นเรื่องกีฬาหรือเรื่องอื่นผมมักจะพูดคุยกับครอบครัวเสมอเพราะพวกเขามีความสำคัญกับผมอย่างมาก ตอนนี้พวกเขาอยู่ไกลออกไปเล็กน้อย มันเป็นอะไรที่ยากแต่ขอบคุณเทคโนโลยีทำให้ผมสามารถคุยกับพวกเขาได้ทุกวัน

ผมต้องการออกจาก แอตเลติโก มาดริด มาซักระยะแล้วครับผมอยู่ที่นั่นมาตั้งแต่อายุ 12 ปี ดังนั้นทุกอย่างส่งผลต่อคุณมากขึ้น ถ้าแฟนบอลโหใส่คนมันก็จะส่งผลต่อคุณมากขึ้นเพราะพวกเขาเหล่านั้นคือคนของคุณและเมื่อคุณมีช่วงเวลาที่ยากลำบากคุณจะใช้ชีวิตแตกต่างออกไป

มันเป็นอะไรที่ซับซ้อนและการย้ายออกก็ซับซ้อนด้วย แต่ผมมองว่ามันเป็นความท้าทายที่จะแข่งขันกับผู้เล่นที่ดีที่สุดในตำแหน่งของผมและผมปราศจากความกลัวที่จะทำแบบนั้น ผมรู้สึกดีและถ้าผมเป็นอย่างที่ควรจะเป็นผมรู้ว่าผมสามารถช่วย เชลซี ได้อีกมาก

คุณบอกว่าไม่ได้ลงเล่นมากเท่าที่ต้องการแต่เรามีเกมสโมสรโลก, คาราบาว คัพรอบชิงชนะเลิศ, เอฟเอ คัพ, แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบน็อคเอาท์และพรีเมียร์ลีกให้เล่นอยู่ คุณมองตัวเองในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ยังไง?


เรามีเดือนที่ยากลำบากในเดือนธันวาคมซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่เราสามารถตัดสินรูปการในตอนท้าย สำหรับตอนนี้เราอยู่ในรอบชิงชนะเลิศและเรามีอีกเกมสำคัญในเกมชิงแชมป์สโมสรโลก ในพรีเมียร์ลีกเราไม่ได้อยู่ในจุดที่เราต้องการแต่สิ่งที่เราสามารถทำได้คือทำงานต่อไปและเดินหน้าไปทีละเกมแล้วดูว่ามันจะจบลงที่ตรงไหน

เช่นเดียวกันกับเอฟเอ คัพ เราต้องใช้โอกาสในการแข่งขันในถ้วยที่ทุกคนอังกฤษบอกกับผมว่ามีความสำคัญอย่างมาก และเราอยู่ในรอบชิงชนะเลิศคาราบาว คัพด้วย ดังนั้นมันจึงเป็นฤดูกาลที่น่าตื่นเต้นอย่างมากแม้ว่ามันจะยากสักหน่อยในช่วงเวลาที่ซับซ้อน เราต้องรวมพลังกันและกำจัดบรรยากาศแย่ๆที่มาจากผลงานแย่ๆ แล้วรวมเป็นหนึ่ง

สุดท้ายแล้วศึกฟุตบอลสโมสรโลกกำลังจะมาถึงในสัปดาห์หน้า คุณรู้สึกยังไงในฐานะผู้เล่นที่มีส่วนร่วมกับทัวร์นาเม้นต์นี้


มันเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ผมรู้สึกโชคดีที่ได้มีส่วนร่วม ผมไม่ได้อยู่ในทีมที่ได้แชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีกซึ่งเป็นความสำเร็จที่น่าเหลือเชื่อและผมมีโอกาสลงเล่นในฟุตบอลสโมสรโลกซึ่งไม่ใช่ทุกทีมหรือทุกคนจะได้เล่น

มันเป็นเรื่องของความสุขและตระหนักว่าเราอยู่ที่นั่นเพราะเพื่อนร่วมทีมของผมคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีกมา เรามีโอกาสที่จะคว้าแชมป์แต่ในแต่ละเกมล้วนยาก, มันเป็นทัวร์นาเมนต์ที่สวยงามและจะเป็นการแข่งขันที่ยากในการประเชิญหน้ากับทีมแชมป์เปี้ยนทีมอื่น ดังนั้นมันจะเป็นอะไรที่เยี่ยมมากในการเพิ่มถ้วยรางวัลในตู้โชว์ของเรา



คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด