แบบอย่างที่น้องไม่ยอมทำตาม

    ฟุตบอลอุ่นเครื่องกับ สกอตแลนด์ เป็นเกมที่ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรและ อังกฤษ ก็นำอยู่สบายๆ 2-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก แต่แล้ว แม็กไกวร์ ที่ลงสนามมาในฐานะตัวสำรองในครึ่งหลังกลับสกัดบอลเข้าประตูตัวเอง

    แม้ว่าสุดท้ายเกมจะไม่ได้เปลี่ยน  อังกฤษ จะเอาชนะไปได้ 3-1 แต่สำหรับตัว แม็กไกวร์ รู้สึกราวกับว่านี่คือจุดต่ำที่สุดในอาชีพของเขาแล้ว

    เซ็นเตอร์คนดังไม่ได้เล่นให้กับ  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงเวลานั้น โดยที่ เอริก เทน ฮาก พยายามขายเขาให้กับ เวสต์แฮม ในช่วงซัมเมอร์ก่อนหน้า แต่เจ้าตัวตัดสินใจสู้ต่อกับสโมสร

    กองหลังค่าตัว 80 ล้านปอนด์ ฟอร์มแย่ เสียความมั่นใจ และที่หนักไปกว่านั้นคือเขาเสียตำแหน่งกัปตันทีม เขากลายเป็นหายนะของทีมในทุกครั้งที่ลงเล่นและดูเหมือนว่าเส้นทางกับสโมสรต้องจบลงแล้ว

    แม้แต่แฟนบอล ’ปีศาจแดง‘ ยังส่ายหัว ไม่ต้องพูดถึงแฟนบอลคู่แข่งที่เห็นเขาเป็นตัวตลก

    ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่มันก็ยิ่งชัดเจนว่า แม็กไกวร์ ไม่มีที่ยืนในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกต่อไปแล้ว ในช่วงที่กองหลังตัวกลางของทีมบาดเจ็บ เอริก เทน ฮาก ยังเลือกขยับ ลุค ชอว์ เข้าไปรับหน้าที่นี้มากกว่าเชื่อใจเซนเตอร์รายนี้

    ด้วยสถานการณ์แบบนั้น แม็กไกวร์ ควรจะย้ายทีม เขาสามารถย้ายไป เวสต์แฮม ก็ได้ นักเตะส่วนใหญ่ก็คงจากไป แต่ แม็กไกวร์ เลือกที่จะอยู่ต่อและก้มหน้าทำงานของตัวเองอย่างเต็มที่

    ในที่สุดเขาก็ได้รับผลตอบแทนในแบบที่ควรได้พร้อมทั้งทำผลงานได้ดีจนได้รับความไว้วางใจอีกครั้ง โดยเฉพาะผลงานในเกม ‘แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้’ ที่จัดการกับ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ อยู่หมัด

    บางคนอาจจะค่อนขอดว่าตอนนี้กองหน้าทีมชาตินอร์เวย์ อยู่ในช่วงที่ตกต่ำ แต่ว่า ฮาแลนด์ ก็คือ ฮาแลนด์ อย่างน้อยก็ต้องให้เครดิตกับ แม็กไกวร์ กันหน่อย

    นั่นถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่สำหรับนักเตะที่หลายคนมองข้ามไปแล้ว และเป็นแบบอย่างให้กับนักเตะคนอื่น เอาแค่ในทีมของตัวเองก็พอ

    เมื่อย้อนมองกลับไปในเคสของ เจดอน ซานโช่ และล่าสุดกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็ได้แต่ส่ายหัว

    ซานโช่ เลือกที่จะเผชิญหน้ากับ เทน ฮาก ในขณะที่ แรชฟอร์ด ปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งลงอย่างช้าๆ ภายใต้ความนิ่งเฉยที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน

    การรู้จักตัวเองคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในโลกฟุตบอลและ แม็กไกวร์ ก็มีมันอยู่ในตัวอย่างเต็มเปี่ยม ไม่แปลกใจว่าทำไม แกเร็ธ เซาต์เกต อย่างเชื่อมั่นในตัวเขาอย่างเต็มเปี่ยมแม้ในยามที่ไม่ได้ลงเล่นให้กับสโมสร

    แน่นอนว่าตัว แม็กไกวร์ เอง ก็คงไม่ได้พอใจกับสถานการณ์ที่เขาต้องเผชิญก่อนหน้านี้ แต่วิธีที่เขาเลือกปฏิบัติแตกต่างออกไปจาก ซานโช่ และ แรชฟอร์ด

    น่าเสียดายที่สองตัวลุกชาวอังกฤษกลับไม่รับเอาทัศนคติแบบ แม็กไกวร์ มาอยู่ในหัวบ้างสักหน่อย ไม่อย่างนั้นคงจะไม่ลงเอยแบบที่เป็นอยู่