รูนี่ย์ชี้วิลล่าเพรสซิ่งบุ่มบ่ามจนขุดหลุมฝังตัวเอง

วิลล่า ไม่ได้เล่นชิงแชมป์สโมสรยุโรปรายการใหญ่สุดตั้งแต่ 1982-83 ที่ยังใช้ชื่อ ยูโรเปี้ยน คัพ ดังนั้นการกรุยทางถึงรอบก่อนรองฯ ชปล.ซีซั่นนี้ถือเป็นการผจญภัยที่ลึกสุดในรอบหลายทศวรรษ 

แต่พอสกอร์ตามหลัง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1-3 จากเลกแรก ทำให้เมื่อกลับมาเล่นเลกสอง แฟนบอลใน วิลล่า พาร์ค จึงปลุกเร้าอย่างเต็มกำลัง ส่งผลให้ผู้เล่น ‘สิงห์ผงาด’ พุ่งทะยานใส่ นับจากเขี่ยลูกเริ่มเตะ 

ทั้งนี้ ‘รูน’ มองเป็นเรื่องน่าเสียดายเพราะหากผู้เล่น วิลล่า หน้างานเก๋ากว่านี้อีกสักนิด จะรู้ว่าจังหวะไหนควรผ่อน-ควรเร่ง ไม่ใช่ลอยสูงทั้งทีม จนอาจหลีกเลี่ยงการถูกสวนกลับจนตกเป็นฝ่ายตาม 0-2 แม้ท้ายสุดแซงเฮ 3-2 ก็ตาม 

“อย่างที่เราเห็นเกมของ เชลซี ซึ่งผู้เล่นได้อิทธิพลของแฟนบอลในการสร้างผลงาน” อดีตแชมป์ ชปล. 2008 กล่าวหลัง วิลล่า ตกรอบด้วยผลรวมสองนัด 4-5 

“แฟนบอลเข้ามาแสดงพลังที่สนามเมื่อคืน ซึ่งผู้เล่นก็ตอบสนองแรงกระตุ้นออกมา” 

“ส่วนตัวผมมองว่าพวกเขาควรมีผู้นำบนสนามที่คอยปรามว่าตอนไหนต้องดึงเกมให้ช้าลง ก่อนที่จะรู้เมื่อสายตกในสถานการณ์ลำบาก” 

“อย่างลูกแรกที่เสียประตู คุณต้องวิ่งกลับมารักษาตำแหน่งก่อนคิดแต่จะขึ้นไปเพรสซิ่งคู่แข่ง” 

“เอาจริงๆพวกเขาต้องนิ่งดูเชิงก่อน แต่เมื่อเร่งเพรสซิ่งก็เลยถูกลงโทษ”

วิลล่า มีสัญญาณบวกเพื่อไปลุ้นความสำเร็จทั้ง เอฟเอ คัพ หรือล่าตั๋วชปล.ซีซั่นหน้านั่นคือสามารถแซงชนะจากตามหลัง 2 ประตูได้อีกครั้งตั้งแต่ต้นปี 2024