สมาคมฯ และ กกท. นำ เจ้าหน้าที่ AFC เดินทางตรวจสนาม เมืองทอง สเตเดียม ในการใช้ในฟุตบอลระดับนานาชาติ
ณ สนาม เมืองทอง สเตเดียม สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย การกีฬาแห่งประเทศไทย นำ เจ้าหน้าที่จากสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ตรวจสภาพความพร้อมของสนาม เพื่อใช้ในการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติ
การเดินทางไปครั้งนี้ นำโดย เจ้าหน้าที่ จากเอเอฟซี ซึ่งประกอบไปด้วย ยู จิน โฮ ฝ่ายจัดการแข่งขัน (ทีมชาติ), เชลตัน กูลการนิ ฝ่ายสื่อและประชาสัมพันธ์, เชง ยิง ได ฝ่ายจัดการแข่งขัน (ทีมชาติ), คูมาราซัน ชันดราน ฝ่ายการตลาดและพาณิชย์, โมฮาหมัด ราซากีดิน บิน ราซาลลี ฝ่ายบริการทั่วไป, ฟาดฮิล อัซรี บิน อิสมาอิล ฝ่ายออกแบบสนาม พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากสมาคมฯ
ภายหลังการตรวจสนาม กานต์ จันรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กล่าวว่า "ในส่วนตัวผมคิดว่า สนามของเรายังต้องมีการปรับปรุงนิดหน่อย เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา มีการใช้งานสนามมาอย่างต่อเนื่อง สภาพตอนนี้ก็น่าจะประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ แต่คิดว่าโดยรวมแล้ว ภายในสองอาทิตย์ ก็น่าจะสามารถทำให้มันกลายเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ได้"
"สำหรับผมสนามนี้ มันคือฟุตบอล สเตเดียม มันมีความพร้อมในการจัดการแข่งขัน อีกส่วนหนึ่งที่ต้องยอมรับเลย คือแมตช์ขนาดกลาง ที่คนไม่ได้เข้ามาชมเกมมากมาย ผมคิดว่าสนามแห่งนี้มีความจุและพอเหมาะและพอดี ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ไม่ได้สูงมาก"
"ข้อดีของสนามแห่งนี้มีหลายอย่าง อย่างแรกคือที่นี่ เป็นฟุตบอล สเตเดียม ซึ่งมีขนาดกลาง ไม่ได้ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป และที่สำคัญคือเป็นฟุตบอล สเตเดียม อย่างแท้จริง ไม่มีลู่วิ่งระหว่างแฟนบอล กับ สนาม สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆก็พร้อม นอกจากนี้ปัจจัยอื่นๆ อาทิ การเดินทางเข้าออกก็ทำได้ง่าย, ที่จอดรถกว้างขวาง, การเดินทางก็ไม่ลำบาก ทุกอย่างสามารถยืดหยุ่นได้หมด"
"ส่วนจุดที่ต้องปรับปรุง ส่วนัตวผมมองว่าเป็นเรืองห้องที่รับรองสื่อ ผมคิดว่าห้องรับรองสื่อมวลชนนั้นยังเล็กเกินไป ซึ่งทางสโมสรเองก็มีโปรแกรมที่จะขยายพื้นที่ตรงนี้ และทำให้สื่อมวลชนมีความอิสระมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ พวกห้องฟังค์ชัน รูม ต่างๆ บางทีอาจจะติดกันเกินไป จนไม่สะดวกในการใช้งาน ซึ่งเราก็พร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไขในจุดนี้ ให้สนามพร้อมมากที่สุด"
สำหรับ สนาม เมืองทอง สเตเดียม เคยจัดการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติมาแล้ว หลายรายการ อาทิ การแข่งขันฟุตบอลตามปฏิทิน ฟีฟ่า ระหว่างทีมชาติไทย กับ ทีมชาติ เคนยา เมื่อปลายปีก่อน รวมถึงทัวร์นาเมนต์ต่างๆ อาทิ ฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รวมถึงการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี รอบสุดท้าย 2014
โดยทางเอเอฟซี จะมีการคัดเลือกสนามแข่งขันที่มีความพร้อมมากที่สุดจำนวน 4 สนาม เพื่อใช้แข่งขันในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ต่อไป
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2020 จะมีการแข่งขันในช่วงเดือนมกราคม 2563 และคัดเลือก 3 ชาติ ผ่านเข้าไปเล่นในมหกรรมโอลิมปิก ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ต่อไป